Skip to content
น่าอ่าน
Menu
Menu

จงสอนลูกให้ลงมือทำ อย่าสอนให้อ่านแต่ตำรา

Posted on 6 กุมภาพันธ์ 2023 by น่าอ่าน

พ่อแม่ทุกคนต่างก็รักลูกตัวเองกันทั้งนั้นแหละ แต่ก็มีพ่อแม่ของหลายคน ๆ ที่รักลูกแบบผิดวิธี

เพราะกลัวว่าลูกตัวเองจะต้องลำบาก จึงพยายามสรรหามาให้ลูกแทบจะทุกอย่าง

แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่พวกคุณกำลังทำอยู่นั้น อาจเป็นการทำร้ายลูกทางอ้อมอยู่ก็ได้

วันนี้เราได้นำเรื่องเล่าจากครอบครัวหนึ่งมาเล่าสู่กันฟัง โดยเรื่องมันมีอยู่ว่า ครอบครัวนึงมีลูกชาย

ที่กำลังอยู่ในช่วงของวัยรุ่น เขาได้ขอเงินแม่เพื่อไปเที่ยวเล่นข้างนอกกับเพื่อน ๆ แม่จึงบอกเขาว่า

ลูกรู้มั้ยว่าตอนสมัยก่อนที่แม่อายุเท่าลูก แม่ไม่เคยได้ไปเที่ยวเล่นแบบลูกเหมือนตอนนี้เลย

แม่ต้องคอยหางานทำ งานอะไรก็ได้ที่ทำแล้วได้เงิน แม่ก็ทำหมด ไม่ว่าจะเป็นพับถุงกระดาษขายเอย

ตัดใบตองส่งตลาดให้แม่ค้าเอย เพราะว่าเงินทองนั้นเป็นของหายาก กว่าแม่จะหามาได้แต่ละบาท

ช่างยากเหลือเกินลูกเอ้ย แม่ไม่ได้มีเงินให้ขอแบบสมัยนี้หรอก เมื่อลูกชายได้ฟังเขาก็ได้แต่นิ่งเงียบ

แล้วฟังแม่ของเขา แม่เขาก็เล่าต่อไปอีกว่า ลูกต้องหัดรู้จักความยากลำบากบ้างนะลูก

ต้องรู้จักประหยัด รู้จักใช้เงิน ไม่เช่นนั้น ลูกจะลำบากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้รถเมล์ก็ยังขึ้นไม่เป็น

แล้วจะเอาตัวรอดยังไง แม่สอนแกมบ่นด้วยนิด ๆ แต่ก็ยื่นเงินให้ลูกชาย และสิ่งนี้คงเป็นสิ่งที่พ่อแม่

ของหลาย ๆ คนมักจะทำเวลาที่ลูกไปขอเงิน จะคอยเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เมื่ออดีต ที่ตัวเองเคยประสบพบเจอมา

ในช่วงอายุเท่า ๆ กันให้ฟัง แล้วจึงค่อยให้เงินลูกไปทีหลัง เพื่อให้ลูกได้รู้จักเรียนรู้

และเข้าใจถึงคุณค่าของเงินให้มาก ๆ สมัยนี้พ่อแม่มัวแต่กลัวลูกตัวเองจะลำบาก กลัวลูกไม่สะดวกสบาย

เลยต้องประเคนทุกอย่างมาให้ลูกหมด โดยที่ลูกแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะพ่อแม่หามาเก็บไว้ให้หมดแล้ว

ช่างแตกต่างจากสมัยก่อนมาก ๆ ที่ไม่มีใครหามาไว้ให้ ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องทำงานเก็บเงินหามาเอง

ไม่มีคำว่ามรดก ทุก ๆ อย่างต้องใช้หนึ่งสมอง และสองมือที่มีเท่านั้น ส่วนมากที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ให้ลูกทั้งหมด

มักเกิดจากการที่ตัวเองไม่มีเมื่อตอนเด็ก เลยอยากให้ลูกมี จะได้ไม่ต้องลำบากเหมือนตัวเองแต่ก่อน

และสะท้อนไปถึงสิ่งที่ตัวเองอยากจะได้ในตอนเด็ก แต่ว่าการที่เลี้ยงลูกโดยไม่ให้ลูกได้ลองเจอ

กับความลำบาก จะกลายเป็นสร้างความลำบากให้ลูกในตอนโตมากกว่า สร้างนิสัยที่ไม่ให้สู้งาน

หนักไม่เอาเบาไม่สู้ เพราะเคยได้อะไรมาแบบง่าย ๆ ทั้งชีวิต เงินก็เปรียบเสมือนคอเลสเตอรอล

ที่มีน้อยไปก็ไม่ดี มีมากไปก็อันตราย พ่อแม่ต้องมองถึงอนาคตของลูกไว้ให้ดี

เพราะหากให้ลูกมากจนเกินไป ก็จะทำให้ลูกช่วยเหลือตัวเองไม่เป็น หาเงินเองไม่ได้

ใคร ๆ ต่างก็รักลูกกันทั้งนั้นแหละ แต่ก็ต้องรักลูกให้ถูกวิธีด้วย ตัวอย่างจากวอร์เรน บัฟเฟตต์

ที่เป็นมหาเศรษฐีลำดับต้น ๆ ของโลก ได้สอนลูก ๆ ของเขาไว้ว่า ลูกจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหา

และหนทางของพวกเขาเอง ถึงแม้ลูก ๆ จะรู้ว่ามีพ่อผู้เป็นมหาเศรษฐี คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง

แต่ลูกก็ต้องลงมือลงแรง ทำมันด้วยตนเอง บัฟเฟตต์ได้ให้มรดกแก่ลูก ๆ เขาไว้แค่พอประมาณ

เพราะเขาไม่ต้องการให้ลูกรักสบายจนเกินไป เขามีความคิดที่ว่า ผมจะให้เงินกับลูก ๆ

ในจำนวนที่มากพอที่เขาจะนำไปทำอะไรต่อก็ได้ แต่ไม่มากพอที่พวกเขาจะไม่ต้องทำอะไรเลย

นี่เป็นความคิดของคนที่เป็นถึงมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของโลก ที่เขาแม้ไม่ต้องทำอะไร

ก็ยังมีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต แต่เขากลับไม่สอนลูกหลานแบบนั้น เพราะเขารู้ดีว่าการให้ที่มากจนเกินไป

เป็นเรื่องอันตราย และเป็นการทำร้ายลูก ๆ ในทางอ้อม โบราณท่านได้มีสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่า

“สอนลูกจับปลา ไม่ใช่จับปลาให้ลูกกิน” เพราะการจับปลาให้ลูก เขาจะได้กินปลาแค่ในวันนั้นวันเดียว

แต่ถ้าสอนลูกให้รู้จักจับปลาเอง เขาจะหาปลากินได้ไปตลอดชีวิต สิ่งที่พ่อเเม่ควรให้ลูกมากกว่าเงินทอง

ก็คือการให้เขามีโอกาสได้เรียน มีวิชาความรู้ติดตัวให้มากพอ ที่จะนำมันไปใช้ในการดำเนินชีวิตและเอาตัวรอดได้

ถ้าหากวันหนึ่งคุณไม่ได้อยู่คอยช่วยเหลือเขาแล้ว คุณก็สามารถที่จะมั่นใจได้ว่าลูก ๆ ของคุณ

จะอยู่ด้วยลำแข้งของตัวเองได้ “จำไว้นะลูก” ความผิดพลาดทุกอย่าง คือการใช้ชีวิต

อย่างน้อยเราก็ได้ลงมือทำมันแล้ว ผิดก็แค่แก้ไข แต่หากวันหนึ่งลูกล้มก็ไม่เป็นไร แต่ลูกต้องลุกให้เป็นนะ

ขอแค่ลูกอย่าท้อ พ่อแม่เป็นกำลังใจให้เสมอ ลูกจงหัดลงมือทำ อย่าเน้นอ่านแต่ตำรา

ที่มา k i a d t i k u n