จงเลี้ยงลูกแบบคนจน เมื่อโตไปจะได้พึ่งพาตัวเองเป็นและเอาตัวรอดได้
เชื่อว่าคงมีพ่อแม่หลายท่านเลย ที่อาจไม่เคยผ่านความยากลำบากมาก่อน
หรือบางท่านก็ลำบากมาไม่น้อย กว่าจะมีวันนี้ได้ และคนที่เคยลำบากมาก่อนหลายคน
พยายามที่จะเลี้ยงลูกให้สบายที่สุด อยากได้อะไรก็ต้องได้ ต้องมีมากกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน
ถ้าเพื่อนลูกมีกระเป๋าใบใหม่ ลูกเราก็ต้องมีใหม่กว่าเพื่อน อยากกินอะไรก็ต้องได้กิน เลี้ยงลูกแบบเทวดา
ด้วยความคิดผิด ๆ ที่ว่า ไม่อยากให้ลูกต้องลำบากเหมือนเราตอนเด็ก เมื่อคุณเลี้ยงลูกแบบไข่ในหินเช่นนี้
ลูกของคุณเองนั่นแหละที่จะทุกข์ใจมากที่สุด.. จนตอนนี้มีโรคใหม่บัญญัติขึ้นนั่นคือ
“โรคไม่รู้จักความลำบาก” โรคใหม่ที่เกิดขึ้นกับเด็กในปัจจุบัน โดยเกิดจากพ่อแม่ไม่สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก ๆ
ไม่ได้ให้ลูกออกไปเผชิญโลกของความจริงที่ว่า ในชีวิตคนเรา จะรวยหรือจน ทุกคนก็ต้องพบกับความลำบากกันทั้งนั้น
ไม่มีหรอกคนที่จะสบายไปตลอดชีวิต พ่อแม่บางคนไม่กล้าใช้ลูก ไม่กล้าให้ลูกทำอะไรด้วยตัวเอง ลูกมีหน้าที่เรียนหนังสือเท่านั้น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว.. ในสังคมปัจจุบัน เรียนเก่งอย่างเดียวมันไม่เพียงพอ ในการดำเนินชีวิตหรอกนะ
ยกตัวอย่าง คุณพ่อท่านหนึ่งที่ไม่เคยสอนให้ลูกรู้จักความลำบาก ไม่เคยปล่อยให้ห่างอกพ่อแม่เลย
มีหน้าที่เรียนอย่างเดียว คุณพ่อท่านนี้ ส่งลูกไปเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังในเมืองหลวง อยู่ในคอนโดหรู
ค่าเช่า ค่ากิน ค่าอยู่ พ่อออกให้ทั้งหมด แม้ทางบ้านฐานะจะไม่ค่อยดี แต่คุณพ่อท่านนี้ก็ยอม
เพราะไม่อยากให้ลูกลำบาก เมื่อลูกโทรมาหาครั้งใด คำแรกที่ได้ยินคือขอเงินเพิ่ม เงินไม่พอใช้
ต้องทำกิจกรรมนู่นนี่หลายอย่าง ซึ่งคุณพ่อท่านนี้ก็ส่งเงินให้ลูกอยู่ร่ำไป เมื่อลูกขออะไร ลูกอยากได้ก็ซื้อให้หมด
แม้แต่รถยนต์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ ก็ยอมหาเงินมาซื้อให้ จนในที่สุด ความจริงก็เปิดเผยว่า
ที่ลูกมาขอเงินเพิ่มในทุกเดือนนั้น ไม่ได้เอาไปจ่ายค่าหน่วยกิจ หรือค่ากิจกรรม ตามที่บอกพ่อแต่อย่างใด
แต่กลับเอาไปสำมะเลเทเมา ตามผับตามบาร์สนุกสนาน คนเป็นพ่อเสียใจอย่างยิ่ง
ได้แต่โทษตนเองที่ไม่เคยสอนให้ลูกรู้จักความลำบาก ไม่เคยสอนให้ลูกรู้จักหาเงินเอง
มีอะไรก็ประเคนให้ตั้งแต่เล็กจนโต จนบ่มเพาะนิสัยแย่ ๆ หลายอย่าง
ทั้งนี้ จึงขอเป็นกระบอกเสียง เตือนคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทั้งหลายว่า
แม้คุณจะรวยล้นฟ้ามาจากไหน ก็ขอให้เลี้ยงลูกแบบสมถะ เรียบง่าย
และสอนให้เขารู้จักความลำบากบ้าง ลูกของคุณจะได้เติบโตไปอย่างเข้มแข็ง
ที่มา t h e-w a y o f l i f e