Skip to content
น่าอ่าน
Menu
Menu

เทคนิคออมเงินด้วยวิธี 50-20-30 ช่วยให้ฐานะดีขึ้น ชีวิตไม่ลำบาก

Posted on 4 มกราคม 2023 by น่าอ่าน

วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปเรียนรู้วิธีการออมเงิน กับบทความวิธีออมเงิน 50/30/20 ให้ชีวิตไม่ลำบาก

ไปดูกันว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง สำหรับใครที่ไม่อยากจะมานั่งเครียด ทุกครั้งที่ใช้เงินบาทสุดท้ายในกระเป๋าสตางค์

กฎการออมเงิน 50/30/20 ช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการรายได้เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่าย ทั้งในส่วนของสิ่งที่จำเป็นในชีวิต

และเป้าหมายในอนาคต ในขณะเดียวกัน ก็มีเงินเหลือพอสำหรับใช้จ่ายให้กับความสุขของชีวิต

การทำแผนออมเงิน ควรคำนวณจากรายรับที่แท้จริงของคุณ ซึ่งเป็นรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย เช่น

การเสียภาษีและแบ่งเงินของคุณออกเป็นสัดส่วน ดังนี้

50% = ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น

20% = เงินออมและชำระหนี้

30% = ใช้กับสิ่งที่ต้องการ

แล้วกฎการออมเงิน 50/30/20 มีวิธีการแบ่งเงินอย่างไร มาดูวิธีแบ่งเงินในแต่ละสัดส่วนอย่างละเอียดกันเถอะ

50%=ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น

อ้างอิงจากกฎการออมเงิน 50/30/20 คุณควรแบ่งเงินครึ่งหนึ่งของรายรับ ไว้สำหรับใช้จ่ายกับส่วนที่จำเป็นในชีวิต

อะไรคือค่าใช้จ่ายที่จำเป็น? ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นคือสิ่งที่คุณขาดไม่ได้ และจำเป็นต้องจ่าย

เช่น ค่าบ้านค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าสาธารณูปโภคอย่างค่าน้ำและค่าไฟ

ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำในการชำระหนี้ แล้วเราจะจัดการอย่างไรหากเราอยากจ่ายมากกว่ายอดขั้นต่ำ?

เพื่อไม่ให้สับสนและลำบากในการคำนวณ เราจะนับค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากการชำระหนี้ขั้นต่ำ

เป็นหนึ่งในสัดส่วนของ 20% ค่าสาธารณูปโภคอื่น ๆ โดยปกติแล้วเราจะนับว่า

ค่าสาธารณูปโภคคือค่าใช้จ่ายที่จำเป็น แต่เมื่อคิดดูแล้ว การคำนวณเช่นนี้อาจจะไม่ถูกต้องสำหรับทุกคน

ตัวอย่างเช่น หากคุณทำงานที่บ้านค่าอินเทอร์เน็ตจะจัดว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแต่ถ้าคุณใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง

ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะถูกจัดว่า เป็นค่าใช้จ่ายกับสิ่งที่ต้องการ ดังนั้น ควรตรวจสอบให้แน่ใจ

ว่าวิธีการแบ่งสัดส่วนเงิน เหมาะสมกับการใช้งานของคุณหรือไม่

ใช้เงินเกินงบที่ตั้งไว้หรือไม่ หากคุณตรวจสอบแล้วว่า ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของคุณ

บางส่วนจัดอยู่ในอีกสองหมวดหมู่เช่นกัน นี่อาจจะถึงเวลาที่คุณต้องลดค่าใช้จ่าย

เพื่อให้อยู่ในงบประมาณที่กำหนด เช่น ย้ายไปอยู่บ้านที่เล็กลง ใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วช้าลง

แต่ประหยัดมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายโดยการซื้อรถที่ราคาถูกลง หากทำเช่นนั้น มีความเป็นไปได้สูง ที่คุณจะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าที่คิด

ใช้เงินน้อยกว่างบที่ตั้งไว้หรือไม่?

คุณช่างโชคดีเหลือเกิน ก่อนจะนำเงินที่เหลือในแต่ละเดือน ไปจับจ่ายใช้สอยเพื่อความบันเทิง

คุณควรพิจารณา และนำเงินที่เหลือไปเก็บในส่วนของเงินออม หรือนำไปชำระหนี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของคุณ

20%=เงินออมและชำระหนี้

เงินในส่วนนี้นับเป็นส่วนสุดท้ายในกฎการออมเงิน 50/30/20 แต่ถือว่าเงินส่วนนี้

เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับสองของแผนการเงินนี้ สิ่งที่ควรทำเพื่อประกันอนาคตของคุณ

ก็คือชำระหนี้เพิ่มเติม ออมเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน(เป้าหมายที่ดีคือควรมีเงินยามฉุกเฉินอย่างน้อยสามเท่าของรายรับ)

พยายามบรรลุเป้าหมายการออมเงิน และลงทุนเพื่อใช้ในยามเกษียณ

หากคุณมีหนี้จำนวนมาก หรือรู้สึกว่าเป้าหมายในการออมเงิน และเงินหลังเกษียณช่างห่างไกลเหลือเกิน

อย่าลังเลที่จะลดค่าใช้จ่ายที่จำเป็น หรือลดค่าใช้จ่ายที่จะใช้กับสิ่งที่ต้องการ จนกว่าคุณจะมีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น

หลีกเลี่ยงการตั้งเป้าหมายการออมเงินที่สูงเกินไป แต่เริ่มจากเป้าหมายการออมเงิน ที่เราสามารถทำได้จริงในระยะยาว

ควรจัดลำดับความสำคัญอย่างไร หากคุณมีหนี้ค้างชำระและไม่มีเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉิน

เราขอแนะนำให้คุณจัดลำดับความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ไว้ต้น ๆ

มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย ที่จะละทิ้งการออมเงินระยะยาว และออมเงินสำหรับการเกษียณ

ยิ่งคุณแก้ปัญหาได้เร็วมากเท่าไหร่ คุณก็จะเริ่มสะสมเงินได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น

แม้มันอาจจะเป็นเงินจำนวนไม่มากก็ตาม ข้อควรรู้เกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นและการอดออมอื่น ๆ

มีเพียงเงินสำหรับใช้ในยามฉุกเฉินการลงทุน สำหรับแผนการเกษียณและการเก็บเงิน

สำหรับเหตุการณ์สำคัญในชีวิต(อย่างเช่น งานแต่งงาน บ้านหลังที่ใหญ่ขึ้นสำหรับครอบครัวที่กำลังเติบโต) เท่านั้นที่จัดอยู่ในหมวดหมู่นี้

หากคุณต้องการเก็บเงินสำหรับทริปวันหยุดพักผ่อน หรือซื้อรถในฝัน

คุณสามารถเก็บเงินส่วนนี้ได้ แต่ต้องให้แน่ใจว่า เงินส่วนนี้จะถูกจัดอยู่ในสัดส่วนของค่าใช้จ่ายกับสิ่งที่ต้องการ

30%=ใช้กับสิ่งที่ต้องการ

ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้จ่ายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ความฟุ่มเฟือยเล็ก ๆ น้อย ๆ

หรือเพื่อความสนุกสนาน ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ จัดว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในการดำรงชีวิต

แต่ทำให้ชีวิตของคุณมีสีสันขึ้น หากคุณใช้เงินมากกว่า 30% ไปกับสิ่งที่ต้องการ

นั่นหมายความว่า ได้เวลาที่คุณจะตัด หรือลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้แล้ว

ในช่วงแรกคุณอาจจะลองเริ่มจากสิ่งที่คุณสามารถตัด หรือลดได้ทันที

นี่เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าที่คิด แน่นอนว่า คุณสามารถเว้นการแบ่งเงินเข้าสัดส่วนนี้

แล้วนำไปรวมกับอีกสองสัดส่วนข้างบนได้ ถือว่าเป็นความคิดที่ดีมาก

โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังประสบปัญหาทางด้านการเงิน แต่อย่างไรก็ตาม

การปล่อยให้ตัวเองไร้ซึ่งความสุขนั้น ไม่ใช่ผลดีในระยะยาวอย่างแน่นอน

ดังนั้น เมื่อใดที่สามารถจัดสรรเงินสัดส่วนข้างบนได้แล้ว

อย่าลืมใช้เงิน 30% ของรายได้ไปกับสิ่งที่คุณรักโดยไม่ต้องรู้สึกผิด

จะเริ่มออมเงินโดยใช้กฎ 50/30/20อย่างไร

เริ่มจากการคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมด และจัดเข้าหมวดหมู่ และจะดียิ่งขึ้นไปอีก

หากคุณสามารถอ้างอิงจากรายการเงินฝากถอนของธนาคาร

เพราะหากคุณคำนวณโดยการคาดเดา การคำนวณอาจคลาดเคลื่อนได้

คุณอาจจะพบว่า ค่าใช้จ่ายบางส่วนของคุณ ไม่สามารถนำมาจัดอยู่ในหมวดหมู่ 50/30/20 ได้

นอกจากนั้น ค่าใช้จ่ายของคุณอาจมากกว่า หรือน้อยกว่ารายได้

อย่ากังวลไปนั่นอาจเป็นเพราะว่า คุณใช้กฎ 50/30/20 โดยไม่รู้ตัว

ดังนั้น คุณอาจจะใช้เวลานี้ปรับแผนการเงิน จนกว่าคุณจะพอใจ

หรือหากคุณไม่สามารถปรับแผนการเงินได้ลงตัว คุณอาจจะต้องวางแผนลดค่าใช้จ่ายบางอย่าง

ที่มา c h a y e n d