มีนักศึกษาผู้คงแก่เรียนคนหนึ่ง ได้ทำการว่าจ้างเรือแจวให้พาข้ามฟาก
ในขณะที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆดูมืดครึ้ม และลมเริ่มพัดจนน้ำเกิดเป็นระลอกคลื่นเล็ก ๆ
เรือแจวได้แล่นไปอย่างช้า ๆ จนเมื่อเรือได้เข้าสู่กระแสน้ำอันเชี่ยวกราด
คนแจวเรือจึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ส่วนฝ่ายนักศึกษานั้น
กำลังนั่งก้มหน้าอ่านหนังสือเล่มใหญ่อยู่ จนในที่สุด
นักศึกษาก็ได้เงยหน้าขึ้นมาจากตำรา แล้วมองไปยังคนแจวเรือ
“ลุง ๆ เคยอ่านหนังสือประวัติศาสตร์บ้างไหม?” นักศึกษาเอ่ยถามขึ้น
“ไม่เคยเลยครับ” คนแจวเรือจ้างตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“ถ้างั้นลุงก็พลาดโอกาสเสียแล้วล่ะ ในหนังสือประวัติศาสตร์นะลุง เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าอ่าน
มีเรื่องของกษัตริย์ และราชินีในสมัยอดีต รวมถึงเรื่องของสงคราม การต่อสู้
ทำให้เราสามารถรู้ว่า คนในสมัยโบราณใช้ชีวิตกันแบบไหน แต่งกายกันอย่างไร
ประวัติศาสตร์จะบอกให้ได้รู้ถึงความเจริญ และความเสื่อมลงของชนชาติต่าง ๆ ทำไมลุงไม่อ่านประวัติศาสตร์บ้างเล่า?”
“ผมไม่เคยเรียนหนังสือครับ” คนแจวเรือตอบ
คนแจวเรือก็ยังคงแจวเรือต่อไป ส่วนนักศึกษาก็ก้มหน้าอ่านตำราต่อไป มีเพียงเสียงใบแจวที่กระทบพื้นน้ำเท่านั้น
ผ่านไปสักครู่หนึ่ง นักศึกษาก็เอ่ยถามคนแจวเรือขึ้นอีก
“ภูมิศาสตร์เล่าลุง เคยอ่านบ้างไหม?”
“ไม่เคยเลยครับ”
“ภูมิศาสตร์เป็นวิชาที่สอนให้เราได้รู้จักกับโลก และประเทศต่าง ๆ
รวมถึงภูเขา แม่น้ำ ลม พายุ ฝน นะลุง วิชาภูมิศาสตร์เป็นวิชาที่น่าสนใจมาก ลุงไม่รู้จักวิชานี้เลยรึ?”
“ไม่เลยครับ” คนแจวเรือตอบ
นักศึกษาส่ายหน้า “ถ้าไม่รู้จักวิชานี้ ชีวิตลุงก็เหมือนไม่มีค่าอะไรเลย”
“วิทยาศาสตร์ละลุง เคยอ่านบ้างรึเปล่า”
“ไม่เคยอีกแหละคุณ”
“ลุงเนี่ยนะ เป็นคนยังไงกันแน่ วิทยาศาสตร์ช่วยอธิบายถึงเหตุและผลต่าง ๆ
ลุงรู้มั้ย ความก้าวหน้าของคนเราในทุกวันนี้ ขึ้นอยู่กับวิทยาศาสตร์โดยตรงเลยนะ
นักวิทยาศาสตร์เป็นคนที่สำคัญอย่างมากในโลกนี้เลยก็ว่าได้ แต่นี่อะไร
ลุงกลับไม่รู้เรื่องพวกนี้เอาเสียเลย ชีวิตของลุงช่างมีค่าน้อยเสียเหลือเกิน”
นักศึกษาปิดตำราของเขา และนั่งเงียบไม่พูดอะไรขึ้นอีก
ในช่วงเวลานั้น ก้อนเมฆสีดำได้แผ่ขยาย และปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า
ลมเริ่มพัดแรงขึ้น มีฟ้าแลบ เป็นเหตุบอกว่าพายุกำลังจะมา
และเรือก็ยังเหลือระยะทางอีกกว่าครึ่ง ซึ่งไกลมาก กว่าจะถึงฝั่ง
คนแจวเรือแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ด้วยสีหน้าที่หวาดหวั่น
“ดูเมฆนั่นสิคุณ พายุคงจะมาถึงเราในไม่ช้า คุณว่ายน้ำเป็นไหมครับ?”
นักศึกษาพูดขึ้นอย่างตื่นตกใจกลัว “ว่ายน้ำ.. ผมว่ายไม่เป็นหรอกลุง”
บัดนี้ คนแจวเรือเป็นฝ่ายเลิกคิ้ว มองนักศึกษาอย่างประหลาดใจบ้างแล้ว และพูดว่า
“อะไรกัน นี่คุณว่ายน้ำไม่เป็นหรอกรึ คุณมีความรอบรู้มากมายออกขนาดนี้
ประวัติศาสตร์เอย ภูมิศาสตร์เอย และวิชาวิทยาศาสตร์เอยคุณก็รู้
แต่ทำไมคุณถึงไม่ไปเรียนว่ายน้ำด้วยเล่า อีกสักประเดี๋ยวเถอะ คุณก็จะได้รู้ว่า ชีวิตของคุณไม่มีค่าเลย”
ลมพายุพัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ เรือแจวลำน้อยถูกคลื่นและลม โหมซัดพัดกระหน่ำใส่เข้ามา
ในไม่ช้าไม่นาน เรือแจวก็ถูกคลื่นและพายุซัดจนเรือพลิกคว่ำ คนแจวเรือจ้างสามารถว่ายน้ำขึ้นฝั่งมาได้อย่างปลอดภัย
แต่ทว่านักศึกษาผู้น่าสงสาร ได้จมหายไปในกระแสน้ำอันเชี่ยวกราดนั้นแล้ว