1. หาเรื่องชวนทะเลาะ
ถ้าจู่ ๆ เขาเกิดไม่พอใจในเรื่องบางเรื่อง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ เขาสามารถยอมรับเรื่องเดียวกันนี้ได้
และหนำซ้ำ ยังหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นโต้เถียง สาดน้ำลายใส่คุณ นี่เป็นสัญญาณเตือน ว่าเขาไม่มีความสุขที่จะอยู่กับคุณแล้ว
บางทีคุณอาจจะถามเขาตรง ๆ ไปเลยก็ได้ว่า ที่ชวนทะเลาะกันอย่างนี้ เพราะไม่ได้รู้สึกดีต่อกันเหมือนเดิมแล้วใช่ไหม
2. เขาไม่ได้โทรศัพท์หาคุณมาหลายวันแล้ว
ถ้าสำหรับคนที่ปกติโทรหากันทุกวัน และจู่ ๆ เขาก็โทรหาน้อยลง ๆ เรื่อย ๆ หรือขาดการติดต่อไป เป็นเวลาหลายวัน
นี่เป็นสัญญาณเตือนลำดับแรก ที่จะบอกให้คุณรู้ว่า เขาต้องมีอะไรผิดปกติไปจากเดิมแน่ ๆ
3. เขากลายเป็นคนที่มีเงื่อนงำมากขึ้น
อย่างเช่น เขาไม่บอกคุณเหมือนแต่ก่อน ว่าเขากำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน ไปกับใคร
หรือโทรศัพท์คุยกับใครบ้าง ต้องรอให้คุณถามเองถึงจะยอมบอก บางทีเขาเลิกงาน
แล้วก็หายวับไปเป็นชั่วโมง ถึงจะติดต่อกลับมา โดยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นซักนิด
4. เขาเลิกพูดไปเลย กับคำว่า “เรา” แต่เปลี่ยนมาใช้ แต่คำว่า “ผม” แทน
คุณเคยนั่งด้วยกันและวางแผนกันว่า เราจะไปเที่ยวด้วยกันนะ เราจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ด้วยกันนะ
แต่ตอนนี้ เขามาเปลี่ยนเป็นพูดว่า อืม ผมจะไปทำไอ้นั่นล่ะนะ พูดถึงแต่ตัวเอง
ว่าอยากจะไปทำอะไรคนเดียว แสดงว่า เขาไม่รู้สึกดี ที่อยากจะให้คุณมาทำอะไรร่วมกันอีกแล้ว
5. บรรยากาศเงียบเชียบ พูดกันน้อยลง
หากคุณเคยกัน ด้วยเรื่องราวอะไรต่อมิอะไรตั้งมากมาย เรื่องหมูหมากาไก่ เรื่องของคนข้างบ้าน
ตลอดจนเรื่องละครหลังข่าว แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่า เขาไม่มีความคิดเห็น
ได้แต่ตอบเพียงว่า อืม ใช่ เหรอ จากที่เคยพูดกันเยอะ ๆ เขาก็แทบไม่อยากจะคุยกับคุณนาน ๆ
6. เขาไปเที่ยวกับเพื่อน มากกว่าให้เวลากับคุณ
ถ้าแต่ก่อน คุณเป็นคนแรกที่สำคัญที่สุด ในชีวิตของเขา แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่า คุณต้องทะเลาะกัน
เพราะไม่ว่าเวลาไหน เขาก็มักจะไปเที่ยวกับเพื่อนตลอด ความรู้สึกรัก ที่เขามีให้คุณเริ่มลดน้อยลงแล้วล่ะ
7. เพื่อน ๆ รอบตัวคุณ เริ่มถามคุณแล้วล่ะว่า ระหว่างคุณกับแฟน มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า
เพื่อนสนิทคุณ เริ่มสังเกตเห็นความห่างเหิน ระหว่างคุณกับแฟนของคุณ อย่างเห็นได้ชัด
และต่างถามคุณด้วยความเป็นห่วงว่า คุณกับเขายังรักกันดีหรือเปล่าเนี่ย
8. เขาวิจารณ์หรือตำหนิคุณมากขึ้นกว่าเดิม
อย่างเช่น บอกคุณว่า คุณแต่งตัวไม่สวยเอาซะเลย (ทั้ง ๆ ที่ นี่มันชุดเดิมที่เขาเคยชมว่าสวยนี่หว่า)
หรือตำหนิคุณในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาเคยชินกับมันมาตั้งนานแล้ว และไม่เคยว่าคุณมากก่อน
9. ไม่อยากเจอ
ถ้าหากว่าในหนึ่งอาทิตย์ คุณและเขามีเหตุที่ทำให้ไม่ได้เจอกัน แต่ดันไม่มีใครรู้สึกทุกข์ร้อน
อยากที่จะเจอกันอีกเสียด้วย ทำเหมือนว่า ถ้าหากใครสักคนหายไป ก็อีกหลายวันกว่าจะรู้สึกตัว
10. ไม่คิดถึงกัน
สัญญาณนี้แน่นอนเลย ไม่ใช่แค่การคิดถึง แบบว่าอยากจะเจอหน้าสุดที่รักตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
ไม่ใช่การส่งข้อความหวาน ๆ พร่ำเพ้อละเมอหา หรือจะรายงานตัวตลอดทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง
แต่เป็นการคิดถึงเรื่องราวความเป็นไปของอีกฝ่าย อย่างเช่น เดินผ่านร้านอาหารอร่อย ๆ คิดอยากที่จะชวนคุณไปกิน
เห็นรองเท้า กระเป๋าใบสวยคิดอยากจะซื้อไปฝาก เป็นห่วงเวลาที่ฝนตก กลัวอีกฝ่ายจะกลับบ้านลำบาก
นี่คือการ “คิดถึง” ที่จะสอดแทรกอยู่ในชีวิตประจำวัน ของคนที่ยังรักกัน
11. ลืมวันสำคัญ ๆ ของกันและกัน
ไม่ว่าจะเป็น วันเกิด วันครบรอบต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งวันวาเลนไทน์ ก็ไม่กระตุ้นเส้นประสาทส่วนไหนเอาซะเลย
ยิ่งพอถึงวันปีใหม่ ยิ่งทำให้เบื่อหน่าย อยากที่จะทำงาน มากกว่าไปเที่ยวด้วยกันซะอีก
ที่สำคัญ เมื่อพบว่าอีกฝ่าย ก็ลืมวันสำคัญของเราเหมือนกัน แต่เรากลับไม่รู้สึกว่าเค้าทำอะไรผิด
หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือ เราก็ไม่ได้คาดหวังว่า เค้าจะจำวันสำคัญนี้ได้ด้วยซ้ำ
เมื่อความรักเริ่มจืดจางลง สิ่งที่ควรทำ คือการเติมความรักความหวานให้แก่กัน
แต่เมื่อทำแล้วยังไม่ดีขึ้น การจากกันด้วยดี คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว เพราะจะดึงจะรั้งไว้ ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
ในเมื่อใจของอีกฝ่ายไม่ได้มีเราแล้ว อย่ายืดเวลาที่จ็บที่จะเสียใจไว้เลย เชื่อว่าสักวันคุณจะเจอรักที่ดี ๆ
12. บทสนทนาจืดและฝืด
ไม่มีเรื่องที่จะคุยกัน ถกเถียง ปรึกษาปัญหาต่าง ๆ เวลาที่เจอกัน อยู่ด้วยกัน
คุณมักจะได้ยินเสียงความเงียบ ดังขึ้นมาผิดปกติ ความเงียบที่ไม่ใช่ความสงบ แต่กลับเป็นความหงอยเหงาจืดจาง
หรือไม่ คุณก็ต้องเป็นฝ่ายหาเรื่องอะไรสักอย่างขึ้นมาพูด เพื่อที่จะเติมช่องว่างอยู่เสมอ ๆ นี่แหละค่ะที่จะสร้างความเบื่อหน่ายในระยะยาว
ที่มา postsread