Skip to content
น่าอ่าน
Menu
Menu

5 พฤติกรรมหัวหน้า ที่บ่งบอกว่าไม่มีวุฒิภาวะ

Posted on 29 พฤศจิกายน 2022 by น่าอ่าน

5 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำ ถ้าไม่อยากเป็นผู้นำที่ขาดวุฒิภาวะ

วุฒิภาวะเป็นสิ่งที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน ก็ควรมีติดตัวเอาไว้เสมอ เพราะถ้าวันหนึ่งคุณได้ขึ้นเป็นผู้นำ

จะทำให้คุณบริหารคนได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม หากคุณอยากเป็นผู้นำที่ลูกน้องเคารพและเชื่อมั่น

ต้องปฏิบัติตัวให้เป็นแบบอย่าง ด้วยพฤติกรรมที่ดีและเหมาะสม แสดงวุฒิภาวะของการเป็นผู้นำ

ออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือที่สุด มีความฉลาดทางความคิดและอารมณ์ ไม่ใช้อำนาจในทางที่ผิดข่มเหงผู้ที่ด้อยกว่า

จะช่วยให้ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา พร้อมใจกันอยากทำงานออกมาจากใจ ไม่ใช่เพียงแค่หน้าที่

การเป็นผู้นำนั้นต้องสร้างความสามัคคี ไม่ใช่ความแตกแยก เพื่อสะท้อนสะภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำที่ดี

แต่ถ้าเราแสดงออกด้วยพฤติกรรมทั้ง 5 แบบนี้ล่ะก็ นอกจากจะไม่มีใครอยากร่วมงานด้วยแล้ว

ยังทำให้เสียลูกน้องดี ๆ ไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

1. ปิดใจไม่ยอมรับฟังลูกน้อง

การเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่ใช่เรื่องเสียหายสำหรับการเป็นผู้นำครับ แม้เราจะต้องเดินนำคนอื่นอยู่ข้างหน้า

แต่การหยุดพัก ฟังเสียงคนรอบข้างเสียหน่อย จะช่วยให้เราได้ไอเดียดี ๆ ในการทำงานอีกมากมาย

โดยเฉพาะลูกน้องของเราที่ได้ลงไปสัมผัสกับชิ้นงาน ทำให้พวกเขารู้ดีที่สุดว่า ปัญหาของงานนั้นคืออะไร

จะได้ช่วยกันหาทางแก้ได้อย่างถูกจุดที่สุด การมีลูกน้องเป็นเพื่อนคู่คิด

เหมือนได้ลาภอันประเสริฐ เพราะอย่างน้อย ก็ดีกว่าการแก้ไขปัญหาคนเดียวครับ

2. พูดคำไม่สุภาพกับลูกน้อง

การสื่อสารเป็นทักษะสำคัญสำหรับคนทำงาน แต่ต้องมาพร้อมกับการสื่อสารที่ดี ไม่ทำร้ายคนฟัง

ไม่ว่าเราจะอยู่ลำดับไหนด้วยเช่นกันครับ ดังนั้น การเป็นผู้นำที่ดีต้องมีสติในการสื่อสารเสมอ

รวมไปถึงความฉลาดทางอารมณ์ ที่ต้องใช้เหตุผลและคำพูดที่ดี ไม่ทำร้ายจิตใจใคร

จำไว้เสมอว่า คำพูดที่เราพูดออกไปแล้ว ไม่สามารถนำกลับมาได้ คำพูดส่งผลต่อพฤติกรรมของคนฟังเช่นกันครับ

ถ้าเราใช้คำพูดร้าย ๆ หรือวิพากษ์วิจารณ์ลูกน้องต่อหน้าคนอื่นในบริษัท จะส่งผลให้เขาเสียความมั่นใจ

และเสียบรรยากาศในการทำงาน กลับกันถ้าเราใช้คำพูดที่ดี ใจเย็น มีเหตุผล

จะช่วยให้ลูกน้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น เพราะรับรู้ว่า หัวหน้ายังรับฟังเขาอยู่เสมอ

3. โยนความผิดให้ลูกน้อง

นับว่าเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับความสัมพันธ์ของคนในทีม เมื่อหัวหน้าถูกตำหนิจากเบื้องบนหรือผู้บริหาร

และนำความเครียดนั้นมาลงกับลูกน้องด้วย การโยนความผิดให้คนอื่นนั้น

อาจส่งผลไปถึงความแตกแยกได้เช่นกัน ไม่ว่าความผิดนั้นจะมาจากใคร สิ่งแรกที่ควรทำคือ

ช่วยกันคิดเพื่อหาทางแก้ ดีกว่าหาตัวคนผิด นอกจากเสียเวลาแล้ว ยังบั่นทอนจิตใจคนทำงานด้วยครับ

ฉะนั้น หัวหน้าอย่างเรา ควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกน้อง ว่าทุกปัญหาย่อมมีทางแก้เสมอ

4. ไล่บี้งานลูกน้อง

การมอบหมายงานทุกครั้ง ต้องมาพร้อมกับความชัดเจนในการส่งงาน เพื่อให้พนักงาน

สามารถจัดสรรเวลาการทำงานของตัวเองได้ง่ายขึ้น เพื่อที่จะส่งงานได้ตามกำหนด

แม้หัวหน้าจะมีสิทธิ์ในการทวงถามงาน แต่หากยังไม่ถึงกำหนดส่ง ก็ไม่ควรไล่บี้จนลูกน้องเกิดความกังวล

และทำงานรน ๆ จนเกิดข้อผิดพลาด ถ้าต้องการงานชิ้นนั้นอย่างเร่งด่วนจริง แต่ลูกน้องยังไม่ส่งมอบงาน

ก็ลองไถ่ถามลูกน้องถึงปัญหาในการทำงานด้วยความใจเย็น เผื่อว่าเราจะมีส่วนช่วยในการให้ลูกน้องทำงานได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม

5. ไม่พัฒนาลูกน้อง

การจะปกครองคนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด คือการไม่หวงความรู้ครับ

เพราะการถ่ายทอดความรู้ให้กับคนในทีม เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาการทำงานต่อไปได้อย่างดีที่สุด

เพราะหัวหน้าสามารถใช้ทักษะ และประสบการณ์ที่มี บอกต่อได้อย่างน่าเชื่อถือ ถ้าปล่อยปะละเลย

ไม่สนว่าลูกน้องเรียนรู้ไปถึงไหน ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ในทีมแย่ลงกว่าเดิมไปอีก

ถ้าหัวหน้าสามารถทำให้ลูกน้องของเราเก่งขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ลูกน้องมีความสามารถ

ในการรับผิดชอบต่องานได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น เปิดทางให้ลูกน้องเข้ามาสื่อสาร สอบถาม และขอความคิดเห็น

แลกเปลี่ยนมุมมองการทำงาน เชื่อผมสิครับว่า จะเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากอย่างแน่นอน

มุมมองเหล่านี้สะท้อนการขาดภาวะการเป็นผู้นำได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเราแก้ไขให้เป็นไปในทางที่ดีได้

การบริหารงานและบริหารคนจะเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าเดิม ลูกน้องเองก็จะให้เกียรติและให้ใจในการทำงานกับเราแน่นอน

ที่มา h a p p y w o r k a p p