6 สเตตัสที่เราไม่ควรโพสต์ลงเฟซบุ๊ค
1. โพสต์รูปร้องไห้ รูปโชว์เนื้อหนัง
เพื่อเรียกร้องความสนใจ มันเป็นความย้อนแย้งที่ทำให้เกิดความขบขัน เพราะคนที่มาเห็นส่วนใหญ่
มักจะคิดว่า “ร้องไห้ เสียใจ เธอยังมีอารมณ์ถ่ายรูปตัวเองในสภาพหน้าพัง ๆ ด้วยเหรอ”
“ปากบอกว่าไม่ชอบพวกคุกคามทางเพศ แล้วจะโชว์รูปที่ล่อเสือล่อตะเข้ทำไม”
การโพสต์ด้วยข้อความหรือภาพในเรื่องหวาดเสียว ไม่น่าดูแบบนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการเรียกแขกให้มาด่า
วิพากษ์วิจารณ์เราว่า แสดงออกอะไรที่ตลก ไม่งาม ไม่แพง
เหมือนพวกเรียกร้องความสนใจและเห็นแก่ตัว เพราะช่างไม่รู้มารยาทสังคม
ไม่รู้กาลเทศะเอาซะเลย ต่อให้เป็นคนหน้าตาดี ก็ไม่สามารถอนุโลมความรุนแรง
ที่จะหลั่งไหลเข้ามาได้ ถ้าไม่อยากให้คนอื่นว่าเอา ก็ต้องคิดให้ดีก่อนโพสต์
2. เพ้อถึงความโสดทุกฤดู ทุกเช้าสายบ่ายเย็น
ผู้หญิงโสดจะน่ารักก็ต่อเมื่อไม่โปรโมทตัวเองเหมือนสินค้า โสดแบบมีความเป็นธรรมชาติ
ไม่ขยันโพสว่าจีบฉันสิ ฉันอ่อยแล้วนะ โสดแล้วเหงาจัง อะไรทำนองนี้
อยากให้มีคนมาจีบ ไม่ต้องรีบขายตัวเองขนาดนั้นก็ได้ ชีวิตเรายังมีเรื่องอื่นให้สนใจอีกตั้งเยอะ
การโฟกัสที่เรื่องรักอย่างเดียว จับจ้องมองหาซะตั้งใจขนาดนี้มันดูไม่แพงเอาซะเลย
เรื่องความรักถ้าจะมาเดี๋ยวก็มาเอง โดยที่เราไม่เรียกร้องให้เหนื่อย
3. โพสต์รูปบ่นสรีระตัวเอง
ทั้งที่ก็ไม่ได้แย่อะไร อย่าด่าตัวเองเพื่อให้คนอื่นชม แต่ควรให้คนอื่นชมตามความจริงตามธรรมชาติ
ช่างเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี ที่คนหน้าตาดีรูปร่างดีอยู่แล้ว มาโพสต์ด่าตัวเองออกสื่อว่าอ้วนจัง ดำจัง
ความสวยที่แท้จริง ควรมาจากการมั่นใจในตัวเองว่ามีดี ส่วนอันไหนที่ไม่ดี ก็รู้ตัวเอง
ปรับปรุงตัวเองเงียบ ๆ ไม่ต้องป่าวประกาศให้โลกรู้ ด่าตัวเองไม่พอ ยังจะเรียกให้คนอื่นมารู้เห็นด้วย มันไม่โอเคเลยนะ
4. เอาเรื่องภายในมาสาวไส้ให้โลกรู้
เกลียดใคร ทะเลาะกับใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อนในกลุ่ม แฟน เพื่อนร่วมงาน
การโพสต์ออกไป ไม่ใช่แค่ระบายอารมณ์แล้วจบ เพราะสิ่งที่อาจจะตามมาก็คือความสัมพันธ์ที่เป็นปัญหาอยู่แล้ว
อาจมีผลกระทบที่หนักกว่าเดิม และในที่สุดไม่ใช่แค่คนอื่นที่ดูไม่ดี ตัวเราก็ด่างพร้อยไปด้วย
สิ่งที่ควรทำก็คือใจเย็น ๆ ไปพูดปรับทุกข์กับใครก็ได้ที่ไว้ใจจนกว่าจะสบายใจ
ไปเคลียร์กันให้จบ ๆ ตัวต่อตัวในโลกนอกจอ หรือถ้าอดใจไม่ได้ ก็ขอให้มีสติในการโพสต์นิดนึง
ระบายให้เต็มที่ แล้วตั้งค่าให้เห็นเฉพาะตัวเองซะ เพราะอะไรที่เราโพสต์ไปด้วยอารมณ์โกรธ ใจร้อน
มันโพสต์แล้วโพสต์เลย มีหลายสายตาจับจ้องรู้เห็นไปแล้ว เราไม่โชคดีทุกครั้งไปหรอก
5. หยาบคายเป็นนิสัย
โดยคิดว่านี่แหละความในใจที่จริงใจสุด ๆ ความถี่ในการแสดงออก มีผลทางจิตวิทยากับตัวเราเสมอ
ถ้าเราไม่รู้จักแยกแยะว่า บริบทไหนควรใช้คำแบบไหน หรือเหวี่ยงความผิดใส่คนอื่นว่า
“ก็ช่างคนอื่นสิ ใครใช้ให้มาตัดสินคนที่ภายนอก” มันไม่น่ารัก ไม่ช่วยให้ตัวเองดูดีเอาซะเลย
มันเป็นเรื่องพอเข้าใจได้ ถ้าเราจะคุยกันแบบหยาบคายกับเพื่อนฝูง แต่อย่าติดนิสัยที่คิดว่า หยาบคายนี่แหละจริงใจ
นึกจะโพสต์คำหยาบคายใต้สะดือก็โพสต์ นึกจะด่าใครลอย ๆ ก็ด่า ไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำอะไรเกรงใจการศึกษา
เกรงใจหน้าตาสวย ๆ ของตัวเองกันนิดนึง keep look กันบ้าง แคร์สายตาหลายคู่ที่ผ่านไปมาบ้าง
การเลือกที่จะแสดงออกหลายแบบ ไม่ใช่คนที่เป็นนกหลายหัว หากแต่เป็นคนที่รู้จักเลือกวางตัวให้เหมาะสมต่างหาก
6. ตอบโต้กับคอมเมนท์ที่ไม่ถูกใจ ด้วยวิธีแรงมาแรงกลับ
ปัญหาแย่ ๆ เราเลือกที่จะจบสวย ๆ ด้วยการอธิบายเหตุผลดี ๆ หรือปล่อยเขาไป
ไม่ตอบโต้ ไม่ให้ความสำคัญ แต่ถ้าเราเลือกแรงมาแรงกลับ มันก็เหมือนกับน้ำมันราดกองไฟ
ด่ากันไปมา แล้วเมื่อไหร่จะจบ เสียสุขภาพจิตกันเปล่า ๆ