Skip to content
น่าอ่าน
Menu
Menu

ชายตาบอดถือโคมไฟ นิทานเรื่องนี้ให้ข้อคิดดีมาก

Posted on 19 พฤศจิกายน 2022 by น่าอ่าน

ในยุคสมัยที่มีการแข่งขันกันสูง แก่งแย่งชิงดีกันมากมาย ทุกคนต่างเห็นแก่ตัวกันมากขึ้น

วันนี้เราจึงได้หยิบยกนิทานเรื่อง “ชายตาบอดถือโคมไฟ” มาให้ทุกคนได้อ่าน เรื่องมีอยู่ว่า…

ในยุคก่อน สมัยที่ทุกคนใช้การเดินทางด้วยการเดินเท้า ยังไม่มีรถ ไม่มีไฟฟ้าใช้

มีถนนเส้นหนึ่งเป็นถนนที่อยู่ติดกำแพงเมือง ที่มีแต่ความมืดและแคบ ไม่มีแสงส่องสว่าง

แต่ผู้คนในเมืองมักนิยมใช้เส้นทางนี้สัญจรไปมา เพราะเป็นเส้นทางลัดที่ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้ดี

ในคืนพระจันทร์เต็มดวง ก็ยังพอมีแสงจันทร์ส่องให้เห็นทางอยู่บ้าง

แต่ในคืนเดือนมืดที่ไม่มีแสงจันทร์นั้น ถนนเส้นนี้มืดสนิท ผู้คนแทบจะเดินเบียดเสียดชนกันไปมา

อยู่มาคืนหนึ่ง มีนักบวชรูปหนึ่งเดินผ่านเข้ามายังตรอกนี้ เพื่อมุ่งหน้าไปยังอาราม

ซึ่งในบางช่วงของถนนเส้นนี้มืดสนิท มืดมากกระทั่งนิ้วมือทั้งห้ายังไม่อาจมองเห็นได้

เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ นักบวชท่านนี้ทั้งเดินไปชนผู้อื่น และถูกผู้อื่นเดินมาชนไม่หยุดหย่อน

ในตอนนั้นเอง ก็ได้มีชายผู้หนึ่งถือโคมไฟเดินผ่านมาพอดี ทำให้ถนนช่วงนั้นเกิดแสงสว่างขึ้นพอสมควร

นักบวชได้ยินคนเดินผ่านทางพูดขึ้นมาว่า

“คนตาบอดผู้นั้นช่างแปลกนัก ตนเองมองไม่เห็นแท้ ๆ ไยต้องถือโคมไฟให้วุ่นวาย”

เมื่อนักบวชได้ยินก็รู้สึกแปลกใจ จนกระทั่งชายตาบอดถือโคมไฟคนนั้นมาถึงตรงที่นักบวชเดินอยู่

นักบวชจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “ขออภัย ท่านตาบอดจริง ๆ หรือ”

ชายผู้นั้นตอบว่า “ถูกแล้ว ข้าตาบอดตั้งแต่กำเนิด สำหรับข้า ไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย เย็น

ล้วนไม่ต่างกัน ทั้งยังไม่ทราบว่า แสงสว่างหน้าตาเป็นเช่นไร”

นักบวชได้ยินดังนั้นก็ยิ่งสงสัย จึงเอ่ยถามต่อไปว่า

“เช่นนั้นท่านจะถือโคมไฟไปทำไม ทำไมไม่ใช้ไม้เท้าคลำทาง”

ชายตาบอดตอบว่า “เพราะข้าเข้าใจดีว่า ตอนกลางคืนไร้แสงสว่าง

คนตาดีทั้งหลายก็เป็นเช่นเดียวกับข้า คือมองไม่เห็นสิ่งใด เวลาเดินเข้ามาในถนนเส้นนี้

ก็มักโดนเดินชนจนเซล้มไปมา ได้แผลถลอกก็หลายหน”

ชายตาบอดกล่าวต่ออีกว่า “เมื่อครู่ท่านเดินอย่างมืดมนในตรอก โดนคนเดินสวนไปมาชนเอา ใช่หรือไม่

ทั้ง ๆ ที่ข้าเป็นคนตาบอด แต่ข้าไม่โดนผู้อื่นเดินชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อน ข้าก็เป็นเช่นเดียวกับท่าน คือโดนคนเดินมาชนเอาบ่อยครั้ง

แต่เมื่อข้าถือโคมไฟ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ที่ข้าจุดโคมไปไหนมาไหนด้วยนั้น

ข้าจุดเพื่อให้แสงสว่างกับผู้อื่น และเพื่อให้ผู้อื่นมองเห็นตัวข้า ตั้งแต่นั้นมา ข้าก็ไม่โดนผู้ใดเดินชนอีกเลย”

เมื่อนักบวชได้ยินความดังนั้นก็บรรลุปัญญา

“ในบางสถานการณ์ การให้ประโยชน์แก่ผู้อื่นก่อน ผู้ให้ย่อมได้รับผลกลับคืนมาสู่ตนด้วยเช่นกัน”

จิตใจคุณกว้างเท่าใด โลกก็กว้างตามความคิดและจิตใจคุณเท่านั้น

คนที่ใจคับแคบ… มักมองสิ่งที่คนอื่นทำว่าผิดอยู่เสมอ

ในทางกลับกัน ชายตาบอดถือโคมไฟ แทนที่จะถือไม้เท้าคลำทาง

แต่เจตนาดีของเขา ยังส่องแสงสว่างให้ผู้คนรอบข้างเสมอ

แม้สายตาจะมองไม่เห็นใคร แต่ทุกคนมองเห็นเขาและไม่เดินชนเขาอีกเลย

ที่มา bitcoretech