เชื่อว่าเหล่ามนุษย์เงินเดือนหลายคน คงเคยเจอปัญหาเงินไม่พอใช้ถึงสิ้นเดือน หรือมีเงินใช้แบบเดือนชนเดือน
ลำบากเหลือเกิน ไม่มีเงินเก็บเลย เงินที่ได้มามันก็ไม่น้อยนะ แต่พอเลยต้นเดือนมาแล้ว เงินหายไปไหนหมดก็ไม่รู้
ถ้าคุณกำลังเจอปัญหาแบบนี้ เป็นไปได้ว่าคุณอาจกำลังเป็นคนที่ “ใช้เงินเกินตัว” อยู่ก็ได้ เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่
เพราะอาจจะต้องไปกู้หนี้ยืมสิน และลำบากในอนาคตมากขึ้นไปอีก คนที่เหนื่อยก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
แต่เป็นตัวคุณเอง ก่อนที่จะใช้เงินเกินตัวไปมากกว่านี้ มาดูเคล็ดลับการแก้นิสัยใช้เงินเกินตัวกันหน่อยดีกว่า
1. ปรับเปลี่ยนนิสัยการใช้เงิน
พูดน่ะมันง่าย แต่ทำมันยากเหลือเกินค่ะ แต่ก็ต้องพยายามนะคะ ให้คุณนึกไว้เสมอว่า
หากเราไม่ยับยั้งชั่งใจในการใช้เงินเสียตั้งแต่ตอนนี้ ก็อาจทำให้เราต้องเหนื่อยในอนาคตข้างหน้า
ดังนั้น ควรฝึกจิตใจให้แข็งแกร่ง และตระหนักถึงความจำเป็น ก่อนที่จะควักกระเป๋าจ่ายเงินให้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
2. ใช้เงินสดซื้อของ
บัตรเดบิตไม่เท่าไหร่ แต่บัตรเครดิตนี่สิคะ ง่ายในการจับจ่ายใช้สอย ทำให้คุณเผลอลืมตัวไปว่า ใช้เงินไปมากแค่ไหนแล้ว
จริงอยู่ที่การใช้บัตรเครดิต สะดวกตรงที่ไม่ต้องพกเงินสดเยอะ ๆ หนัก ๆ เอาไว้ในกระเป๋า
แต่การพกเงินสดนั้นก็ดีตรงที่ เราจะรู้ว่าใช้เงินไปเท่าไหร่ และเหลือเงินที่สามารถใช้ได้อีกเท่าไร
พูดง่าย ๆ ก็คือ เราจะสามารถจัดระเบียบการใช้เงินได้ง่ายกว่านั่นเองค่ะ
3. เลิกใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ หรูหรา
หากคุณเป็นคนที่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตแบบสะดวกสบาย หรือชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ซื้อของราคาแพง
จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้ผิดอะไร ถ้าเรามีเงินมากพอ แต่ถ้าการใช้ชีวิตแบบนั้น มันทำให้เราเสียเงินที่มีอยู่น้อยนิดไปโดยใช่เหตุ
ก็ควรต้องเพลา ๆ ลงบ้าง แล้วลองพิจารณาดูว่า หากลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ลงได้ จะมีเงินเพิ่มขึ้นนะ
อาจจะไม่สะดวกสบายเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ต้องลำบากในอนาคต
4. เลือกคบเพื่อนที่ไม่พากันไปเสียเงิน
การเลือกคบเพื่อนก็มีอิทธิพลต่อการใช้เงินอยู่เหมือนกันค่ะ ยิ่งขาช็อปแล้วด้วย ก็คงจะพากันซื้อของ ช็อปกันสนุกสนานเลย
ไม่มีใครห้ามใคร รู้ตัวอีกทีก็เงินหมดทั้งคู่แล้ว แต่จริง ๆ แล้วข้อนี้ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
น้อยส่วนนักที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าเรามีสติในการใช้เงินซะอย่าง เพื่อนช็อป เราก็ห้ามเพื่อน เราช็อปเพื่อนก็ห้าม
ผลัดกันเตือนสติน่าจะเป็นอะไรทีดีที่สุดเลยล่ะค่ะ
5. วางแผนการเงินให้ชัดเจน
หากคุณไม่มีความหนักแน่น หรือไม่มีเป้าหมายทางการเงิน ทั้งแบบระยะสั้น ระยะยาว
จะทำให้คุณสูญเสียประสิทธิภาพในการจัดลำดับความสำคัญทางการเงิน ว่าเรื่องใดที่สำคัญมาก เรื่องใดที่สำคัญน้อย
สุดท้ายแล้ว ก็จะพ่ายแพ้ต่อกิเลส และใช้เงินไปจนหมด ทางที่ดีก็คือ ต้องวางแผนการใช้เงินในแต่ละเดือน
ว่าจะใช้จ่ายไปกับอะไร เป็นจำนวนเท่าไร เดือนนี้จะเก็บเงินเท่าไร หรือวางแผนจะซื้อของสักชิ้น ต้องเก็บเงินนานแค่ไหน
และทำตามเป้าหมายนั้นให้ได้ หากคุณไม่สันทัดเรื่องการวางแผน ก็ลองปรึกษาคนใกล้ตัวที่เก่งเรื่องบริหารเงินดูนะคะ
6. ตั้งสติก่อนจ่าย
เวลาที่คนเรามีเงินเยอะ ๆ อยู่ในครอบครอง ก็ไม่แปลกที่จะอยากนำไปใช้ เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองบ้าง
แต่เงินที่ว่าเยอะนั้น ก็มีวันที่จะหมดไปได้ ถ้าใช้อย่างไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
ดังนั้น ก่อนที่จะควักเงินจ่ายไปกับอะไรสักอย่าง อยากให้ตั้งสติให้ดีเสียก่อน ว่าเราอยากได้ของสิ่งนี้จริง ๆ หรือไม่
และมันจำเป็นต้องซื้อในตอนนี้เลยหรือไม่ ลองใช้เวลาในการชั่งใจ ก่อนหยิบเงินออกมาจ่าย
เพราะเงินก็เหมือนสายน้ำ จ่ายไปแล้วไม่หวนคืนนะคะ ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีอย่างเช่นตอนนี้ เราควรเก็บเงินเอาไว้บ้าง
เพราะหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือมีเหตุจำเป็นให้ต้องใช้เงินขึ้นมา เราจะได้มีเงินสำรองเอาไว้ใช้จ่ายในอนาคตค่ะ
เงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่เงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิต เพราะฉะนั้น อย่าลืมตั้งสติก่อนควักกระเป๋าจ่ายเงินนะคะ จะได้มีเงินเก็บเยอะ ๆ
ที่มา today lineme