การเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็นคนดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเด็กที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต มีความรับผิดชอบ สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้
เข้าสังคมได้ดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ต้องได้รับการดูแลเชิงบวกตั้งแต่ยังเล็ก ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และได้รับการปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ดี
จากครอบครัวเป็นหลัก ที่สำคัญพ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของลูก แต่จะมีวิธีอย่างไร ลองไปอ่านกันเลยค่ะ
1. สอนให้ลูกรู้จักความสงสาร และช่วยเหลือผู้อื่นเป็น
แน่นอนว่าในสังคมโรงเรียนของเด็ก ๆ จะมีทั้งเด็กดื้อ และเด็กเรียบร้อยรวมกันอยู่ และส่วนมากเด็กดื้อก็มักจะมาแกล้งเพื่อน ๆ ที่เรียบร้อยกว่า
วิธีที่จะช่วยให้ลูกของเราตระหนักถึงเรื่องนี้ได้ คือการลองให้ลูกของเราจินตนาการดูว่า ถ้าตัวเองได้เป็นคนที่ด้อยกว่า เขาจะรู้สึกอย่างไร
วิธีนี้จะช่วยให้เด็ก ๆ ได้เห็นภาพ และได้เห็นมุมมองอีกด้านหนึ่งของคนอื่น อีกทั้งพ่อแม่ควรให้ลูก ๆ คิดถึงคนอื่น
ที่นอกเหนือจากเพื่อนที่โรงเรียนด้วย เช่น คนไร้บ้าน คนพิการ ฯลฯการพูดคุยกับเขาในเรื่องนี้ตั้งแต่เด็ก
จะช่วยให้เขารู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อคนรอบข้าง และไม่รังแกคนที่ด้อยกว่า
2. ให้ลูกรู้จักรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองกระทำ
พ่อและแม่คือต้นแบบที่ลูกจะเรียนรู้ และเอาอย่าง สิ่งสำคัญที่สุดคือการสอนให้พวกเขามีความรับผิดชอบต่ออะไรก็ตามที่ได้กระทำลงไป
อย่างเช่นกินขนมเสร็จก็ต้องนำถุงขนมไปทิ้งให้เป็นที่เป็นทาง ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ให้พ่อแม่พยายามอธิบายกับลูก ๆ อย่างใจเย็นว่า
อะไรคือความรับผิดชอบ และมันส่งผลอย่างไรบ้างกับตัวของลูกเองและสังคมรอบข้าง แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ
ตัวของพ่อแม่เอง ที่นอกจากจะสอนลูกแล้วก็ต้องไม่ลืมที่จะทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีด้วย
3. สอนให้ลูกรู้จักควบคุมอารมณ์ (มี EQ)
ความโกรธ ความเศร้า หรือแม้แต่ความผิดหวัง ล้วนเป็นอารมณ์ที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ ไม่ใช่แค่สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น
แต่ยังเกิดขึ้นกับเด็กเช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญคือพ่อแม่ควรสอนให้ลูกจัดการกับอารมณ์แง่ลบให้ได้ เมื่อไหร่ที่เขาโมโห
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ให้ใช้ช่วงเวลาที่ลูกเริ่มรู้สึกใจเย็นขึ้นมาบ้างแล้ว เข้าไปพูดคุยและสอนใช้เทคนิคการหายใจเข้าทางจมูก หายใจออกทางปาก
พร้อมกับพยายามนับ 1-5 เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คนเราเกิดความรู้สึกโมโห เลือ ดในร่างกายจะสูบฉีดอย่างแรง
และหัวใจจะเต้นรัวมากกว่าปกติ ดังนั้นการกำหนดลมหายใจ เปรียบเหมือนเครื่องมือ ที่ใช้จัดการกับอารมณ์ร้ายได้เป็นอย่างดี
4. สอนให้ลูกขอบคุณเป็น แสดงความรู้สึกเชิงบวกเก่ง
การแสดงออกถึงความซาบซึ้งใจต่อสิ่งที่ผู้อื่นทำให้เป็นสิ่งสำคัญ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในสังคมอย่างมาก ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า
พ่อแม่ควรสอนให้ลูก ๆ รู้จักขอบคุณในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน อย่างเช่น การบอกให้ลูกไปกอดคุณยายที่ทำขนมให้
ถึงแม้ว่ามันจะไม่อร่อยก็ตาม หรือขอบคุณเพื่อนรุ่นเดียวกัน เมื่อเขาแบ่งปันขนมให้ คนที่แสดงออกถึงความซาบซึ้งใจต่อคนอื่น
จะมีความสุข และสุขภาพที่ดีกว่าคนที่ดูเหมือนจะเย่อหยิ่ง และไม่ยอมก้มหัวให้ใคร
5. สอนให้รู้จักการวางตัวดี และเหมาะสม
ส่วนใหญ่แล้ว พ่อแม่มักจะมองหาความสำเร็จของลูกผ่านผลการศึกษา จนอาจจะลืมไปว่า เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างอื่น
ก็อาจส่งผลต่อพฤติกรรมที่เหมาะสมของเขาได้เช่นกัน พ่อแม่ควรพูดคุยกับลูกเป็นประจำ ยกตัวอย่างถึงบุคคลที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม
และทำให้เค้าเห็นถึงพฤติกรรมที่เหมาะสมในแง่อื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเรื่องการรักษาสัญญา การเคารพต่อผู้อื่น
และต้องไม่ลืมว่า พฤติกรรมส่วนใหญ่ของลูก ๆ มักจะเลียนแบบมาจากพ่อแม่นั่นเอง