เริ่มเข้าใจว่า “เวลา” สำคัญกว่า “เงินทอง”
เงินทอง มีเวลาถ้าไม่ขี้เกียจมันก็หาได้ แต่เวลา มีเงินมากมายเท่าไหร่ก็ซื้อมันไม่ได้
เริ่มเข้าใจว่า ไม่มีอะไรสำคัญเท่าครอบครัว
ตอนล้มเหลว ตอนผิดหวัง ตอนเจ็บป่วย ก็มีเพียงครอบครัวเท่านั้นที่อยู่ด้วยในทุกสถานการณ์
เริ่มไม่อินกับความสำเร็จใหญ่โต
แต่อินกับความสำเร็จเล็ก ๆ ในปัจจุบัน ไม่คาดหวัง ไม่ตั้งเป้าสูงเกินไป เพราะรู้แล้วว่าเวลามันล้มมันเจ็บมาก
เริ่มหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น
เพราะเริ่มรู้ว่าไม่มีอะไรดูแลเราดี เท่าเราดูแลสุขภาพตัวเอง ไม่มียาชนิดไหน รักษาเราได้ดีเท่ากำลังใจจากเราเอง
การใช้จ่ายก็เปลี่ยนไป
ใช้แค่เท่าที่จำเป็น เพราะไม่รู้ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือแย่ การมีสำรองไว้นั้นดีที่สุดแล้ว
การเข้าสังคมก็เริ่มน้อยลง
เพราะเริ่มอิ่มกับการอยากได้การยอมรับ อิ่มกับการปรารถนาความมีชื่อเสียง ขออยู่ในมุมสงบ ๆ แบบธรรมดาของเราก็พอ
เริ่มรู้จักคำว่า “ให้อภัย”
เพราะการให้อภัยไม่ได้ทำให้เขามีความสุข แต่มันทำให้เรามีความสุข เพราะเราไม่ต้องไปแบกความคับแค้นใจเอาไว้
เริ่มปล่อยวางกับอะไรที่คว้าไม่ได้
เพราะรู้ว่าบางสิ่งบางอย่าง ที่เราอยากได้มันมา บางทีสิ่งนั้นมันก็ไม่ใช่ของของเรา การปล่อยวางจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
สิ่งของเริ่ม “สะสาง” มากกว่า “สะสม”
อะไรขายได้ขาย อะไรเป็นประโยชน์กับคนอื่น ให้ได้ก็ให้ อะไรที่ไม่ได้ใช้ก็ทยอยทิ้งไป เพราะเริ่มรู้ว่าของพวกนี้ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง
เริ่มเรียนรู้และเข้าใจสัจธรรม
เรามีเกิด แก่ เจ็บ ตา ย เป็นธรรมดา สักวันต้องถึงวันของเรา ไม่ช้าก็เร็ว การฝึกและเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนนั้น ดีที่สุดแล้ว
ที่มา กวีอินดี้