เข้าสู่หน้าร้อน คงหนีไม่พ้นเรื่องค่าไฟ เพราะบางบ้านต้องเปิดทั้งพัดลมทั้งแอร์ ทำให้ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นอีก
บางครั้งแอร์ก็ไม่เย็น กว่าจะเย็นก็ใช้เวลานาน ทำให้เปลืองค่าไฟมากกว่าเดิม
มันก็คงจะดีกว่า ถ้าคุณรู้จักการใช้งานแอร์ที่บ้าน มากกว่าการกดสวิทช์เปิด-ปิด หรือลดอุณหภูมิขึ้นลง วันนี้เรามีเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ
ที่รู้ไว้ไม่เสียหายมาบอก เครื่องปรับอากาศแต่ละเครื่องล้วนมีโหมดต่าง ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน
แล้วการเปิดโหมดที่เหมาะกับการใช้งานนั้นดีอย่างไร ก็ดีตรงที่ช่วยยืดอายุการใช้งาน และยังช่วยให้คุณประหยัดไฟได้โดยไม่รู้ตัว
หากสงสัยว่าแต่ละโหมดต่างกันอย่างไร ไปตอบข้อสงสัยในจุดนี้กันได้เลย
รีโมทแอร์จะมีโหมดหลัก ๆ อยู่ 4 โหมด
1. Auto Mode
โหมดนี้เป็นโหมดที่แอร์จะทำการปรับอุณหภูมิ และความเร็วของพัดลมให้เองโดยอัตโนมัติ ตามความเหมาะสม
โดยวัดตามอุณหภูมิของห้อง ที่เซนเซอร์แอร์สามารถวัดได้ โดยโหมดนี้จะเป็นโหมดที่หลาย ๆ บ้านเปิดใช้ เพราะเป็นโหมดที่สะดวกต่อการใช้งาน
โดยมันจะสลับโหมดการใช้งานเป็นโหมดอื่น ๆ ตามสภาพแวดล้อมภายในห้องให้ด้วย โหมดนี้จึงเป็นเหมือนอีซี่โหมดสำหรับทุกคน
ที่ไม่ต้องการคิดเยอะ ไม่อยากปรับแอร์มากนัก แต่อยากเย็นกายสบายใจแบบง่าย ๆ โดยเฉพาะกับเด็กหรือผู้สูงอายุ
ที่ไม่ต้องการความวุ่นวาย เพียงแค่กดสวิทช์เปิด-ปิด อากาศภายในห้องก็เย็นสบาย
2. Cool Mode
โหมดนี้เหมาะกับคนที่ชอบห้องที่แอร์เย็นฉ่ำได้แบบทันใจ หรือห้องที่อุ่นสบายกำลังดี เพราะอุณหภูมิสามารถปรับขึ้นลงได้
ตามการสั่งการผ่านรีโมทแอร์ของผู้ใช้งาน นอกจากอุณหภูมิแล้ว ยังสามารถปรับความแรงของพัดลมได้ด้วยตนเอง โดยไม่มีระบบเซนเซอร์มาควบคุม
สำหรับคนขี้ร้อนที่ชอบให้แอร์เย็นไว ๆ ท่ามกลางอากาศร้อน หรือคนขี้หนาวที่ชอบความเย็นกำลังดีได้เท่าที่ต้องการ โหมดนี้ดูจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด
3. Dry Mode
โหมดนี้เป็นโหมดที่ไม่ค่อยได้ใช้งานกันตามบ้านมากนัก เพราะเป็นโหมดที่ทำมาเพื่อการใช้งานเฉพาะ คือช่วยลดความชื้นในอากาศ
เหมาะกับสถานที่หรือห้องที่ใช้เก็บสิ่งของที่ต้องควบคุมความชื้น ตามบ้านเรือนจึงไม่ค่อยได้ใช้โหมดนี้ซักเท่าไร ซึ่งในโหมดนี้
คุณจะไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิห้องได้ คุณจึงรู้สึกได้ว่า แม้จะปรับรีโมทให้มีอุณหภูมิต่ำ แต่ก็ยังมีความเย็นไม่เท่ากับตอนตั้งโหมดคูล
ดังนั้น ก่อนจะปรับมาเป็นโหมดนี้ ก็ควรรู้ก่อนว่า มันเหมาะกับการใช้งานอย่างไร
4. Fan Mode
โหมดนี้ทำงานตามชื่อโหมดเลย คือทำงานเป็นพัดลมให้กับคุณ โดยการทำงานของโหมดนื้ จะปล่อยเพียงลมออกมาเท่านั้น
และลมที่ปล่อยออกมานั้น จะเป็นอุณหภูมิห้องเท่านั้น ไม่ได้มีความเย็นออกมาด้วย คุณจึงสามารถปรับได้เพียงความแรงของพัดลมเท่านั้น
ไม่สามารถปรับอุณหภูมิได้ ซึ่งเหมาะสำหรับห้องที่มีอากาศถ่ายเทจากภายนอก หรือห้องที่มีกลิ่นอับจากแอร์
ก็สามารถเปิดโหมดนี้เพื่อลดความชื้น และกลิ่นอับที่สะสมในแอร์ได้อีกด้วย ในโหมดนี้ แต่ละบ้านอาจไม่ค่อยได้ใช้งานนัก
แต่อาจเผลอกดรีโมทไปโดนโดยไม่รู้ตัว จึงเข้าใจผิดว่าแอร์เสีย เพราะไม่ว่าจะปรับอุณหภูมิต่ำ หรือเพิ่มความเร็วพัดลมอย่างไร
ห้องก็ไม่เย็นขึ้น จึงทำให้เข้าใจว่า แอร์เสีนจนต้องเรียกช่างซ่อมแอร์มาซ่อม เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา
แอร์เย็นขึ้นประหยัดเงินลงด้วยการเปิดพัดลมช่วย
วิธีที่จะทำให้แอร์เย็นเร็วทันใจ และยังคงช่วยประหยัดค่าไฟได้ด้วย อีกวิธีหนึ่งก็คือ การเปิดพัดลมช่วยระบายไอเย็นให้กระจายทั่วห้อง
หากรู้สึกไม่ร้อนมาก ก็สามารถใช้โหมด cool และปรับอุณหภูมิความเย็นขึ้นไปที่ 27-28 องศายังได้เลย
จะทำให้ในห้องยังมีความเย็นอยู่ ค่าไฟถูกลงได้ และยังได้รับความเย็นจากแอร์และพัดลมด้วย
ตำแหน่งในการติดตั้งแอร์ก็เป็นเรื่องสำคัญ หากเราติดตั้งแอร์ในจุดที่มีตู้หรือมีเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ วางเอาไว้
ก็จะทำให้แอร์ไม่สามารถกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึงทั้งห้อง การติดตั้งแอร์บริเวณที่ติดกับผนัง
ที่ได้รับความร้อนอยู่เป็นประจำ ก็จะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ค่าไฟแพงขึ้นด้วย