ชายวัยกลางคนคนนึง เดินเข้ามาในร้านกาแฟเพื่อนผม ผมจำได้ดีว่า.. ชายคนนี้เป็นคนที่เพื่อนผมเกลียดมาก
เมื่อเพื่อนผมเห็นชายคนนั้น ก็รีบเดินไปยกมือไหว้สวัสดี และรับออร์เดอร์ด้วยตัวเอง ทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนาน
เขาซื้อกาแฟ 6 แก้วไปฝากเพื่อนร่วมงาน เป็นเงินเกือบ 400 บาท หลังจากชายคนนั้นออกจากร้านไป
ผมรีบถามเพื่อนทันที “เฮ้ยแจ็ค ไหนนายบอกว่าเกลียดไอ้นี่มากไง แล้วไปยกมือไหว้ ขายของ คุยกับมันทำไม”
เพื่อนผมตอบว่า..
“เดินไปกระทืบคนที่เราไม่ชอบ อันธพาลที่ไหนมันก็ทำ วิธีแบบนี้เป็นวิธีของคนโง่ทำกัน
เดินไปต่อยคนที่ไม่ชอบ โพสต์ด่าคนที่เราเกลียด ใคร ๆ ก็ทำได้ จำไว้นะ… เกลียดแค่ไหน ก็ต้องเก็บไว้ในใจ
อยากกระทืบแค่ไหน ก็ต้องยกมือไหว้ ทำการค้า อย่าสร้างศัตรู มันโดนกระทืบ นอกจากมันจะไม่มากินกาแฟร้านเราแล้ว
มันยังจะบอกทุกคนที่มันรู้จัก ไม่ให้มาร้านเราด้วย วันนี้กระทืบมันได้ วันหน้ามันก็ดักยิงเรา
ชีวิตเรามีค่าเกินกว่าจะมาแลกกับไอ้คนพวกนี้ แบบนี้สะใจกว่า.. เราเกลียดมัน แต่เราได้กำไรจากมัน
ได้ขายของให้มัน ได้เงินมัน เดือนนึงเราได้เงินจากมันคนเดียววันละ 60 บาท เดือนละ 1,800
นี่ยังไม่รวมที่มันพาคนในที่ทำงานมันมาร้านเราอีกนะ”
ผมเข้าใจก็วันนั้นเอง และนำมาปรับใช้กับตัวเองตลอด ยากนะ แต่ทำได้ ได้เงินคนที่เราเกลียดมัน สะใจมากจริง ๆ
ทำการค้าหรือทำอะไรก็ตาม เราอยู่ที่สว่าง อยู่ในสังคมที่ดราม่า อ่อนไหวได้ทุกเรื่อง ต้องหัดเป็นคนใส่หน้ากากบ้าง
เพื่อให้ได้อะไรบางอย่างที่ดีกับชีวิตเรา เราไม่จำเป็นต้องโพสต์ด่าทุกคนที่เราเกลียดหรอก ไม่ต้องไปแก้แค้นทุกคนที่ทำแย่ ๆ กับเราหรอก
จำไว้.. ค้าขาย ทำธุรกิจ อย่าสร้างศัตรู ใช้วิธีเพื่อนผมได้ สะใจกว่าเดินไปกระทืบมันอีก