ถ้าให้คุณลองหลับตา นึกย้อนกลับไปถึงวัยเด็ก คาดว่าภาพแห่งความทรงจำสีจาง คงจะปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ
และใบหน้าของคุณตอนนี้ คงจะเจือด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เป็นแน่ เพราะภาพที่เห็นนั้น คงจะเป็นภาพที่เรากำลังวิ่งเล่นอยู่กับเพื่อน
เดินเที่ยวอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ หรือวีรกรรมต่าง ๆ ที่เราสร้างขึ้น ต่างล้วนเป็น “ความสุขเมื่อเยาว์วัย” ที่เราเคยก้าวผ่านมาด้วยกันทุกคน
บนรอยทางแห่งกาลเวลา อันเป็นอดีตเหล่านั้น มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น และเกี่ยวข้องกับชีวิตของเรา
ซึ่งมีทั้งสุข ทุกข์ เศร้า เหงา เฮฮา สนุกสนาน สมหวัง ผิดหวัง หัวเราะและร้องไห้ คละเคล้ากันไป
ในทุกวันนี้ หลายคนคงไม่ได้คิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาในวัยเด็ก เพราะไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน
หรือเรื่องเรียนที่เราต้องรับผิดชอบอีกมากมาย จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน หรือคิดเรื่องอื่นด้วยซ้ำ
หลายต่อหลายคนครุ่นคิดถึงปัญหาชีวิต และเรื่องราวในวันพรุ่งนี้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จนลืมมองย้อนไปถึงเรื่องราวในวันวาน
คุณเคยคิดหรือไม่ ในวัยเด็กของคุณ ก็คงมีความทุกข์เหมือนกัน แต่เรื่องราวต่าง ๆ นั้นดูไม่หนักหนาสาหัส
เหมือนเรื่องที่เรากำลังพบเจอในตอนนี้ นั่นก็เป็นเพราะ คุณผ่านช่วงเวลานั้นมาได้แล้ว
มีบุคคลต่าง ๆ มากมายที่เรารักและผูกพันด้วย ทั้งพ่อแม่ ญาติพี่น้อง คุณครู เพื่อน ๆ และคนที่เรารู้จักอื่น ๆ อีกมากมาย
ซึ่งในบรรดาผู้คนทั้งหลายที่เรารักเหล่านั้น หลายคนได้ลาจากโลกนี้ไปแล้ว บางคนก็ลืมเลือนกันไป
ในขณะที่อีกหลายคนยังคงมีชีวิตอยู่ และเรายังคงรักและผูกพันกันอยู่เช่นเดิม
การได้ย้อนเวลากลับไปสู่ห้วงเวลาแห่งวันวาน ทำให้เราได้สัมผัสถึง ช่วงเวลาแห่งความสุข และความงดงามหลาย ๆ อย่าง
ยามใดเรารู้สึกท้อแท้ อ่อนแอและสิ้นหวัง เมื่อทำใจให้สงบ และหวนระลึกถึงช่วงเวลาแห่งความทรงจำ ในอดีตที่ผ่านมาอีกครั้งหนึ่ง
มันกลับทำให้เรารู้สึกอบอุ่น มีความสุข มีกำลังใจ มีความหวังขึ้นมาอย่างประหลาด และไม่รู้สึกเงียบเหงา หรือเดียวดายอีกต่อไป
อยากให้ทุกคน ลองหันกลับมาทำตัวเหมือนเด็กอีกครั้ง ให้เรามองความทุกข์ เป็นเรื่องที่แก้ไขในเวลาที่สมควรคิด
และกองมันไว้ตรงนั้น ในช่วงเวลาแห่งความสุขของเราเพียงเท่านี้ ชีวิตของเราก็จะมีช่วงเวลาแห่งความสุขเพิ่มมากขึ้น