Skip to content
น่าอ่าน
Menu
Menu

คนเป็นหัวหน้า จะรับมืออย่างไร เมื่อลูกน้องเก่งกว่าตัวเอง

Posted on 20 มีนาคม 2022 by น่าอ่าน

ใครที่รู้จักผลงาน วรรณกรรมอันเลื่องชื่อจากแดนมังกรอย่าง “สามก๊ก” คงพอจะได้ยินกิตติศัพท์ความฉลาดล้ำลึก

จากตัวละครอย่าง “ขงเบ้ง” เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า เหตุใดคนเก่ง สติปัญญาเฉียบแหลมเช่นขงเบ้ง

ถึงยอมทำงานให้กับเล่าปี่ ซึ่งเป็นผู้นำในแบบที่ก้าวสู่ความสำเร็จได้ ก็เพราะคนที่อยู่แวดล้อมรอบกายเป็นหลัก

ในโลกการทำงานจริงนั้น บ่อยครั้งที่เจ้านายหรือหัวหน้า อาจไม่ได้เฉียบแหลมกว่าลูกน้องเสมอไป คล้ายคลึงกับเรื่องราวของเล่าปี่กับขงเบ้ง

หรือแม้แต่แม่ทัพที่เกรียงไกร ย่อมต้องมีทหารเอกเก่ง ๆ คู่ใจ ยามรบกับใคร ก็มักได้รับชัยชนะอยู่เสมอ

เปรียบเหมือนการมีคนเก่ง ๆ หรือลูกน้องฝีมือดีอยู่ในองค์กร พวกเขาเหล่านี้นี่แหละ ที่จะมีบทบาทสำคัญ

ช่วยส่งเสริมการทำงานให้เราประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ก้าวสู่เส้นชัยได้ตามความมุ่งหวังตั้งใจ

แทนที่เจ้านายหรือหัวหน้า จะรู้สึกนอยด์หรือกลัวเสียหน้า เมื่อมีลูกน้องที่ทำงานเก่งกว่า ให้ลองเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่

พลิกสถานการณ์ให้เป็นความท้าทาย แม้ความเชื่อเดิม ๆ หรือภาพจำส่วนใหญ่ อาจทำให้เรารู้สึกว่า คนเก่งโดยมาก

มักมีความมั่นใจและมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ทำให้ควบคุมบริหารจัดการได้ยาก สำหรับเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลจนเกินไปนัก

เพราะบรรดาผู้นำที่ประสบความสำเร็จทั้งหลาย ล้วนมีวิธีรับมือจัดการกับลูกน้องเก่ง ๆ ได้

เราได้หยิบยกมาเป็นแนวทาง ให้สามารถนำไปปรับใช้กันได้ตามความเหมาะสม ดังนี้

1. ใช้คนเก่งให้เป็นประโยชน์

เมื่อมีคนเก่งอยู่ในทีม จงใช้ข้อได้เปรียบนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พยายามดึงความสามารถต่าง ๆ ของพวกเขาออกมาใช้

ค้นหาว่าพวกเขามีจุดเด่นในเรื่องใด อะไรเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องเรียนรู้เพิ่มเติม แล้วท้าทายพวกเขา

ด้วยการมอบหมายงาน ที่จะสามารถนำคนเก่งเหล่านี้ ไปสู่ความก้าวหน้าในอนาคตได้

2. เรียนรู้จากคนเก่ง

เปลี่ยนการแย่งซีน การแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น ให้เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน หัวใจสำคัญของการบริหาร คือการจัดการคน

และกำหนดทิศทางในการทำงานให้ทีม ไม่ใช่การแข่งขันประลองความรู้กับลูกน้อง คนเป็นหัวหน้ามีหน้าที่ต้องเอาชนะใจ

ไม่ใช่เอาชนะงาน ดังนั้น ถ้าลูกน้องเก่งกว่า ก็เรียนรู้จากเขา ถามคำถาม และบางครั้งอาจลงมือทำเองบ้าง

เพื่อจะได้มีโอกาสสัมผัสกับหน้างานจริง ๆ อย่ามองว่าเป็นเรื่องเสียฟอร์ม เสียการปกครอง ไม่แน่ว่าการใส่ใจถามไถ่เรื่องงานของหัวหน้า

ถ้ามาถูกทาง อาจเกิดผลพลอยได้ ในเรื่องการสร้างความยอมรับ และเป็นการกระชับความสัมพันธ์กันอีกทางหนึ่งด้วย

3. ยิ่งไม่รู้ ยิ่งต้องถาม

คนเราไม่ได้เก่งทุกอย่างฉันใด หัวหน้าหรือเจ้านาย ก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่องฉันนั้น อย่าติดกับดักความคิดที่ว่า หัวหน้าต้องเก่งกว่าลูกน้อง

เมื่อหัวหน้าถูกลูกน้องถามในเรื่องที่ไม่รู้ การพูดตรง ๆ ว่าไม่รู้ แม้ฟังดูง่าย แต่ก็ยากมหาศาล สิ่งที่ช่วยได้มากที่สุดก็คือ

ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความจริง ไม่ใช่สิ่งที่น่าอับอายเมื่อมีเรื่องที่เราไม่รู้ แต่เป็นทักษะที่ผู้นำทั้งหลายต้องฝึกฝนให้เป็นนิสัย

เมื่อไม่รู้ให้ตอบตามตรง และขอความช่วยเหลือจากคนมีความรู้ความสามารถ อย่ามองว่าพฤติกรรมนี้เป็นเรื่องของคนอ่อนแอ

กลับกัน มันเป็นการแสดงออกถึงความเข้มแข็งอย่างที่สุด เพราะกล้าหาญ ที่จะยอมรับความจริง

ในเรื่องที่ไม่รู้ หรือทำไม่ได้ หัวหน้าที่ทำเช่นนี้ได้ ถือว่าน่าชื่นชมสุด ๆ

4. รู้กว้าง สร้างวิสัยทัศน์

บางครั้งหัวหน้าอาจไม่มีความรู้ และความชำนาญในงานระดับปฏิบัติการ อย่างลึกซึ้งเท่าลูกน้อง เพราะไม่ได้อยู่หน้างานอย่างใกล้ชิดทุกวัน

แต่หัวหน้าก็จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องอื่น ๆ ที่ลูกน้องไม่รู้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวิสัยทัศน์ยาวไกล การวางกลยุทธ์อย่างแยบคาย

การตัดสินใจอย่างรอบคอบ การบริหารจัดการเรื่องต่าง ๆ อย่างราบรื่น หรือแม้แต่การแก้ปัญหาอย่างเฉียบคม

ความรู้แบบกว้าง ๆ นี่แหละ ที่จะเป็นตัวช่วยเพิ่มมูลค่าของหัวหน้า และเรียกความศรัทธาจากลูกน้องได้เป็นอย่างดี

5. ให้เครดิต เสริมสร้างกำลังใจ

ให้กำลังใจคนทำงานเก่ง ๆ ด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวความสำเร็จในการทำงานของพวกเขา

ให้เพื่อนร่วมงาน หรือผู้บริหารคนอื่น ๆ ฟัง ชื่นชมคนเก่งว่า เป็นคนสำคัญของทีม

และขององค์กรโดยรวม ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกดี เมื่อหัวหน้ามองเห็นคุณค่าในตัวของพวกเขา

6. ดัน “ดารา”

เปิดโอกาส ให้ลูกน้องเก่ง ๆ ได้เรียนรู้ และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เมื่อเห็นโอกาสที่ดี และเหมาะสม

ก็ไม่ควรเก็บเขาไว้ที่เดิม จนไม่ได้มีโอกาสเติบโต ส่งเสริมให้เขาได้มีโอกาสรับผิดชอบ

งานใหม่ ๆ ที่ท้าทาย และเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ได้เติบโตในสายงานขึ้นเป็นลำดับ

7. กำจัดความกลัว สร้างความมั่นใจ

คนทั่ว ๆ ไปย่อมมีความกลัวในเรื่องต่าง ๆ เป็นธรรมดา ทั้งกลัวไม่เป็นที่รัก กลัวไม่ดีพอ กลัวไม่เข้าพวก ฯลฯ

ความกลัวเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของความไม่มั่นใจ และไม่เป็นตัวของตัวเอง วิธีการรับมือกับความกลัวไม่ใช่เรื่องยาก

เพียงยอมรับความกลัวด้วยความมั่นใจ แล้วเดินหน้าต่อไป ให้เตือนตนเองเสมอ ว่าการจ้าง และพัฒนาคนที่มีความสามารถ

เป็นสิ่งที่เจ้านาย และหัวหน้าที่ดีควรทำ เพื่อผลดีของทีม และเพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์กร

ลูกน้องเก่ง ทำให้ประสิทธิภาพของทีมดีขึ้นมาก และเป็นประโยชน์ต่อองค์กร

ที่มา th jobsdb