ทุกคนล้วนมีภาระและหน้าที่ ที่แตกต่างกันไป รวมถึงภาระเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ก็เช่นกัน หลายคนอาจจำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสินมา
เพื่อใช้จ่าย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร แต่ถ้าถึงคราวต้องใช้คืน แต่กลับมีเงินไม่พอ หรือยังไม่พร้อมด้วยเหตุผลใด ๆ ก็แล้วแต่
ย่อมทำให้เกิดความเครียด ท้อแท้ มืดแปดด้านขึ้นมาได้ มาดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้าง ที่จะเตรียมใจเราให้พร้อมรับมือ กับปัญหาหนี้สินได้โดยไม่เครียด
1. ยอมรับความจริง
ทุกปัญหาจะแก้ได้ ต้องเริ่มต้นจากการยอมรับให้ได้ก่อนว่า ปัญหานั้นเกิดขึ้นแล้ว หนี้สินก็เช่นกัน เมื่อมีภาระหนี้สินผูกพันซะแล้ว
การแสร้งทำเป็นลืม ๆ ไป ไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย เพราะถึงแม้จะทำให้สบายใจได้ในวันนี้ แต่ไม่ว่าจะพรุ่งนี้หรือวันไหน ๆ หนี้ก็ยังอยู่
ถ้ายังไม่รู้จักแก้ไขให้ถูกต้อง หันมาเผชิญหน้ากับความจริงตั้งแต่วันนี้ดีกว่า อย่าปล่อยไว้จนสายเกินแก้
2. คนมีหนี้ไม่ได้แปลว่า เป็นคนล้มเหลว
หลายคนรู้สึกท้อแท้ที่จะรับมือกับหนี้สิน เพราะมองว่า หนี้เกิดจากความไม่เอาไหนของตัวเอง ซึ่งไม่จริงเสมอไป
ทุกคนต่างมีความจำเป็นของตัวเอง ในโลกนี้มีคนมากมาย ที่ต้องพบกับปัญหาแบบนี้แช่นเดียวกับคุณ
และหลายคนก็สามารถผ่านพ้นมาได้สำเร็จ อย่ามัวโทษตัวเองอยู่เลย รีบลุกขึ้นสู้ไปด้วยกันเถอะ
3. ทำความเข้าใจเหตุผลที่แท้จริง
ลองตอบตัวเองให้ได้ว่า หนี้ที่มีนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ เป็นเพราะความจำเป็นจริง ๆ หรือเพราะความฟุ่มเฟือยกันแน่
ถ้ามาจากความจำเป็น ก็อย่าเสียใจ จำไว้ว่าคุณได้ทำดีที่สุดแล้ว และพร้อมจะรับผิดชอบผลของมันอย่างกล้าหาญ
แต่ถ้ามาจากความฟุ่มเฟือย รูดบัตรเพลินเกินตัวล่ะก็ รีบดัดนิสัยตัวเองโดยด่วน ก่อนจะเกิดหนี้ก้อนใหม่ตามมาติด ๆ อีก
4. จำไว้ว่า คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
ไม่ว่าปัญหาจะยิ่งใหญ่แค่ไหน มันก็จะเบาลงได้ ถ้ามีคนช่วยแชร์ อย่าเอาแต่แบกรับความกลุ้มใจไว้เพียงคนเดียว
ลองหันไปปรึกษาคนในครอบครัว หรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ พวกเขาต้องพร้อมเป็นกำลังใจให้คุณแน่นอน หรือคุณอาจจะ
ลองเข้ากลุ่มสังคมออนไลน์ กับคนที่ประสบปัญหาหนี้สินเหมือน ๆ กัน อาจได้คำแนะนำดี ๆ ก็ได้ เห็นไหมว่าคุณไม่ได้โดดเดี่ยวเลย
5. หนี้เป็นแค่อุปสรรคเล็ก ๆ ในชีวิตเท่านั้น
คนเราเกิดมากกว่าจะตา ย ย่อมต้องเจออุปสรรคมากมายเป็นธรรมดา ซึ่งถ้าพิจารณาให้ดี จะเห็นว่า หนี้สินที่มีตอนนี้
ก็เป็นแค่ปัญหาจุดเล็ก ๆ จุดหนึ่งในชีวิตคุณเท่านั้น คุณยังโชคดีกว่าอีกหลายคนบนโลกใบนี้เยอะ ฉะนั้น จะยอมแพ้ง่าย ๆ ไม่ได้นะ
6. ลงมือแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
มองโลกในแง่ดี แล้วอย่าลืมวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด และลงมือจัดการกับหนี้สินอย่างจริงจัง เช่น ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
หารายได้เสริม และเจรจากับเจ้าหนี้ เพื่อหาข้อตกลงที่ลงตัวกับทั้งสองฝ่าย เพียงเท่านี้ คำว่า “ปลอดหนี้” ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม