หากอยากเป็นคนที่มีความสุขกับชีวิตได้ในทุก ๆ วัน สิ่งหนึ่งที่คุณควรเริ่มทำคือ “เลิกบ่น”
เพราะยิ่งคุณบ่นมากเท่าไหร่ เหตุการณ์แย่ ๆ ก็ยิ่งดึงดูดเข้ามาหาคุณ
นั่นเพราะ.. คำบ่นเป็นคำพูดเชิงลบ ที่สร้างแต่ความหงุดหงิดรำคาญใจให้กับตัวเอง
สังเกตดูสิ เมื่อมีเหตุการณ์ไม่พอใจเกิดขึ้น แล้วคุณบ่นกับตัวเองคนเดียว หลังบ่นแล้ว รู้สึกดีขึ้นหรือเปล่า
เชื่อว่าส่วนใหญ่ แม้จะตอบว่าดีที่ได้ระบาย แต่ความรู้สึกลึก ๆ ในใจคุณ
ยังคงโมโห อารมณ์คุกรุ่น ไม่ได้รู้สึกว่าอารมณ์ปลอดโปร่งโล่งใจขึ้นเท่าไหร่
และหากคุณเลือกที่จะบ่นให้กับคนรอบข้างฟัง เพราะคิดว่าการได้บ่น เปรียบเหมือนกับได้ระบายความอึดอัดใจออกมา
แต่รู้หรือไม่ว่า การที่คุณเอาแต่บ่นอยู่บ่อย ๆ คนรอบข้างก็ไม่ได้แฮปปี้หรอกนะ
เพราะไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนที่วัน ๆ เอาแต่หาเรื่องบ่นโน่นนี่ได้อยู่ตลอด จนดูแล้วไม่มีความสุขในชีวิตเอาเสียเลย
อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นคนขี้บ่น ที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากเข้าใกล้ อย่าให้ใครตราหน้าว่า “เจอคนนี้ทีไร ก็เอาแต่บ่น”
ลองเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่… ทุกครั้งเมื่อคุณเจอเรื่องหงุดหงิดใจจนอยากบ่น
ให้เปลี่ยนมาเป็นพูดคำว่า “ไม่เป็นไร” เพื่อสะกดจิตใจตัวเองให้ปล่อยวางกับเรื่องนั้น ๆ
เช่น แทนที่จะบ่นว่า.. “ตาคนนั้นขับรถแย่จริง ๆ เบียดมาได้ยังไง ไม่มองเลยหรือไง”
ก็เปลี่ยนเป็น.. “ไม่เป็นไร รถเยอะก็แบบนี้แหละ ใช้ถนนร่วมกันก็ต้องแบ่ง ๆ กันไป”
ฝึกจิตปรับพฤติกรรมไปสักพักคุณจะเริ่มชิน และเมื่อพูดคำ “ว่าไม่เป็นไร” จนเป็นนิสัยแล้ว ชีวิตคุณจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะ
ที่มา เรื่องดี ๆ มีข้อคิด