เมื่อใดที่เธอเหนื่อย มีคนมากมายบอกกับเธอว่า “เหนื่อยก็ไม่ต้องทำแล้ว พักบ้างเถอะ” แต่คนที่พูดหยิบยื่นเงินให้เธอใช้ไหม
เมื่อใดที่เธอป่วย มีคนมากมายบอกกับเธอว่า “กินยา แล้วพักผ่อนเยอะ ๆ นะ” แต่จะมีสักกี่คน ที่ซื้อยามาให้เธอกิน
เมื่อใดที่โทรศัพท์เธอพัง มีคนมากมายบอกกับเธอว่า “พังแล้วก็เปลี่ยนเครื่องใหม่เถอะ” แต่มีใครให้เงินเธอ เพื่อไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ไหม
เมื่อใดที่เธอเผชิญกับความลำบาก มีคนมากมายบอกกับเธอว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ไม่ต้องคิดมาก” แต่จะมีสักกี่คน ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือยามเธอลำบาก
เธอเอ๋ย.. ละครโรงใหญ่ของโลกใบนี้ไม่เคยขาดคนชม หากเธอไม่พยายาม วันใดที่เธออับจน จะมีสักกี่คนยื่นมือเข้ามาอุ้มชู
วันใดที่เธอเจ็บป่วยถึงขั้นนอนติดอยู่กับเตียง วันนั้นเธออาจไม่มีอะไรให้กลัวอีกต่อไป แต่ใคร ๆ ต่างจะพากันกลัวเธอ
พ่อแม่กลัวเธอไม่หาย…
ญาติ ๆ และผองเพื่อน กลัวเธอยืมเงิน…
คู่ชีวิตกลัวเธอจะทำให้เขาเหนื่อย…
โรงพยาบาลกลัวเธอจะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา…
ถึงตอนนั้น กำลังวังชา ความภาคภูมิใจได้อันตรธานหายไปจนหมดสิ้น
ดังนั้น เธอต้องดูแลสุขภาพของตัวเธอให้ดี สุขภาพไม่ดี ทุกสิ่งที่มีก็ไม่ใช่ของเธออีกต่อไป
เธอบอกว่าแมวไม่ขโมยกิน เธอเอาปลาไปล่อดูสิ
เธอบอกว่าสามีไม่มีทางเป็นอื่น เธอให้เด็กสาวใกล้ชิดเขาดูสิ
เธอบอกว่าพ่อแม่เมียรักเธอมาก เธอลองตีลูกสาวของเขาดูสิ
เธอบอกว่าพ่อแม่ผัวรักเธอมาก เธอลองพูดถึงเรื่องมรดกดูสิ
เธอบอกว่าเถ้าแก่ให้ความสำคัญกับเธอมาก เธอลองต่อรองอะไรบางอย่างสิ
เธอบอกว่ามีญาติเป็นเศรษฐี เธอลองเอ่ยยืมเงินเขาสิ
สังคมในวันนี้ อย่าได้ริอาจไปลองใจใคร เพราะหากเธอลองใจใครเมื่อใด เธอจะรู้ว่า “จุดจบ” มันคืออะไร
อย่าลองใจใคร เพราะมันจะทำให้เธอเศร้าใจ
คำพูดบางคำ แค่ฟังก็พอ อย่าไปจริงจัง
เรื่องบางเรื่อง แค่รู้ก็พอ อย่าพูดจนหมดเปลือก
คนบางคน เข้าใจก็พอ อย่าศึกษาจนถ่องแท้
ใครดีใครร้าย “รู้อยู่แก่ใจก็พอ”
ที่มา นุสนธิ์บุคส์