ตอนเด็ก ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวมาก เจออะไรดี ๆ จะอยากเอามาเป็นของตัวเองให้ได้
โดยไม่ใสใจว่าคนอื่นเขาคิดอย่างไร นานวันเข้า เพื่อน ๆ ก็หายไปทีละคนสองคน ลดลงไปเรื่อย ๆ
ผมกลัดกลุ้มและหงุดหงิดใจมาก นอกจากเห็นแก่ตัวแล้ว.. ผมยังเป็นคนชอบวิพากษ์วิจารณ์คนลับหลัง
มีอยู่คืนหนึ่ง.. คุณพ่อทำบะหมี่สองชาม
ชามแรกมีไข่ไก่บนบะหมี่หนึ่งฟอง อีกชามดูไม่มีอะไร มีแต่เส้นบะหมี่
คุณพ่อถามผมว่า จะทานชามไหน ตอนนั้นไข่ไก่เป็นของหายากมาก ต้องตรุษจีนหรือวันเกิด ถึงมีโอกาสได้ทาน
ซึ่งแน่นอน.. ผมเลือกทานชามที่มีไข่ ตอนที่ทานอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น
เห็นคุณพ่อทานถึงก้นชามแล้ว ในก้นชามถึงกับมีไข่สองฟอง
ผมรู้สึกเสียใจที่ตนใจร้อน ไม่ได้คิดให้ดี คุณพ่อเห็นท่านก็ยิ้ม แล้วพูดกับผมว่า..
“ลูกเอ๋ย เจ้าจงจำไว้ ที่ตาเห็นนั้นอาจไม่ใช่ของแท้ คิดจะเอาเปรียบคนอื่น กลับขาดทุนใหญ่หลวงได้นะลูก” (ประโยคที่ 1)
ในคืนที่สอง.. คุณพ่อก็ทำบะหม่อีกสองชาม ดูแล้วเหมือนของคืนก่อนไม่มีผิด
ชามหนึ่งมีไข่โปะอยู่ฟองหนึ่ง อีกชามหนึ่งคล้ายมีแต่เส้นบะหมี่
คุณพ่อให้ผมเลือก ผมเสียรู้ไปทีแล้ว วันนี้ผมจึงเลือกเอาชามที่ไม่มีไข่
คุณพ่อมองผมโดยไม่ได้ปริปาก ผมจับตะเกียบ รีบโกยบะหมีเข้าปาก ด้วยคิดจะทานไข่ในก้นชามไว ๆ
แต่หารู้ไม่ว่า.. ในชามนั้น นอกจากบะหมี่และซุปแล้ว ไม่มีอะไรเลย และแล้วคุณพ่อกับกล่าวกับผมว่า…
“ลูกเอ๋ย เจ้าจงจำไว้ให้ดีนะ อย่าให้ความสำคัญ หรือเชื่อในประสบการณ์มากเกินไป เพราะการดำรงชีวิต
มีการพลิกแพลง หลอกเราได้ แต่ลูกก็ไม่ต้องท้อแท้ ไม่ต้องเสียใจ ถือว่าเป็นการลิ้มลอง
เป็นประสบการณ์ก็แล้วกันนะลูก ภูมิปัญญาเหล่านี้หาอ่านจากตำราไม่ได้นะ” (ประโยคที่ 2)
ในคืนที่สาม.. คุณพ่อก็ทำบะหมี่สองชามอีก ดูเป็นแบบเดียวกัน ชามหนึ่งมีไข่ฟองหนึ่ง อีกชามไม่มีไข่
คราวนี้ผมไม่หุนหันเหมือนสองคืนที่ผ่านมา ให้คุณพ่อเลือกก่อน ผมพูดกับคุณพ่อด้วยความเคารพว่า..
“คุณพ่อครับ ท่านเป็นผู้ใหญ่ ท่านเหน็ดเหนื่อยกับการดูแลครอบครัวเรามามากแล้ว คุณพ่อเลือกก่อนเถอะครับ”
คุณพ่อเลือกเอาชามที่มีไข่หนึ่งฟอง ส่วนผมก็ทานชามที่ไม่เห็นมีไข่ แต่ผิดคาด ในก้นชามมีไข่อยู่สองฟอง
คุณพ่อเงยหน้าขึ้น พูดกับผมด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน และน้ำเสียงเนิบ ๆ ว่า
“ลูกต้องจำไว้ให้ดีนะ เมื่อลูกคิดและทำเพื่อคนอื่นแล้ว ความโชคดีก็บังเกิดกับลูกได้นะ” (ประโยคที่ 3)
คำพูดของคุณพ่อทำให้ผมรู้สึกละอายใจในตัวเองเป็นอย่างมาก
นับแต่นั้นมา ผมก็จดจำสามประโยคที่คุณพ่อสอนไว้มิรู้ลืม ยึดเป็นหลักในการดำรงชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นการวางตัว หรือปฏิบัติหน้าที่ ก็มักจะคำนึงถึงประโยชน์ของคนอื่นก่อน
ผลก็เป็นอย่างที่คุณพ่อได้สอนสั่งไว้จริง ๆ ทำให้ความโชคดีมาเยือนอย่างคาดไม่ถึง
หน้าที่การงานของตัวเองเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ งานบางอย่างก็ไปแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว
ที่มา bitcoretech