Skip to content
น่าอ่าน
Menu
Menu

6 วิธีจัดการและรับมือกับ หัวหน้างานที่ไม่ทำอะไรเลย

Posted on 6 กุมภาพันธ์ 20226 กุมภาพันธ์ 2022 by น่าอ่าน

ปัญหาในการทำงาน แม้ว่ายากลำบากแค่ไหน เราก็คงพร้อมจะฝ่างานหนัก และความลำบาก

ถ้าหากมีทีมเวิร์ค มีหัวหน้างานที่ดี เพราะไม่ว่างานจะเหนื่อยหนักอย่างไร ถ้าได้เจอหัวหน้างานที่ดี

ถือว่าคุณโชคดีแล้ว เพราะการทำงานของคุณจะได้รับการสนับสนุน การปกป้อง และช่วยเหลือ

จากหัวหน้าได้เป็นอย่างดี แต่ส่วนใหญ่ที่พบเจอและยากที่จะทนก็คือ หัวหน้าประเภทเรื่องดีใส่ตัว

เรื่องชั่วโยนให้ลูกน้อง บางคนวัน ๆ ไม่ทำอะไร นั่งดูแต่กราฟ(หุ้น) หรือหนักเข้าไปอีก

เจอหัวหน้างานประเภททำธุรกิจส่วนตัว(ขายตรง) จะปฏิเสธก็ลำบากใจ กลัวจะมีผลต่อ การประเมินผลปลายปี

เราจะมีวิธีจัดการกับหัวหน้างานที่ไม่เอาไหนได้อย่างไรบ้าง ลองมาดูวิธีการทั้ง 6 ข้อนี้ครับ

1. แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับงานที่จะทำทุกครั้ง

ไม่ว่าเราจะทำอะไร ให้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับงานนั้น ๆ ให้กับหัวหน้างานทราบทุกครั้ง เพราะเป็นการสื่อให้หัวหน้างานรู้ว่า

เราทำงานอย่างไร งานมาก งานน้อยแค่ไหน จะได้เป็นการกระตุ้นหัวหน้าทางอ้อมไปในตัว

2. อย่าแสดงตัวเองว่าเก่งทุกอย่าง

ลูกน้องแบบนี้ หัวหน้างานประเภทนี้จะชอบมาก เพราะไม่ต้องเหนื่อยจัดการอะไรเลย มีอะไรก็จะโยนมาให้หมด

ยิ่งทำได้มาก ก็ยิ่งให้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น อย่าทำตัวเป็นคนที่เก่งไปซะทุกอย่าง ทำเองได้หมด

ทำเท่าหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายก็เพียงพอเล้วครับ ที่เหลือให้หัวหน้างานได้แสดงฝีมือบ้าง

3. สื่อสารตรง ๆ บอกให้รู้ไปเลย

หัวหน้างานบางคนไม่รู้เรื่องจริง ๆ นะครับ ไม่รู้ว่าตั้งใจไม่รู้ หรือไม่รู้จริง ๆ แต่ไม่ว่าจะสื่อสารอย่างไรไป ก็ไม่เคยรู้ตัวเลย

หัวหน้างานแบบนี้ จำเป็นต้องพูดตรง ๆ ไปเลยครับ แต่ไม่ใช่ใช้คำไม่สุภาพนะครับ ควรจะเป็นการบอกว่า เรารู้สึกอย่างไร

และต้องการให้เขาสนับสนุนอะไร วิธีนี้เป็นวิธีการที่ดี และเร็วที่สุดแล้ว แต่ถ้าจะทำ ลองดูสถานการณ์ดี ๆ ก่อนนะครับ

ควรจะรอโอกาสที่เขาไม่ยุ่งมาก และอารมรณ์ดี เพราะถ้าผิดจังหวะพลาดมา จะมองหน้ากันไม่ติดอีก

4. แจ้งเมล์ผ่านหัวหน้างานทุกครั้ง

หมายถึง cc เมล์ ให้หัวหน้างานทราบด้วยทุกครั้ง ไม่ว่างานนั้นจะเกี่ยวข้องกับหัวหน้างานหรือเปล่า ส่งให้หมด

ทำให้เห็นว่า หัวหน้างานมีความสำคัญ ต้องรับรู้งานทุกอย่างของลูกน้อง ถ้าดีหน่อย เขาก็จะรู้สึกตัว และปรับตัวให้ดีขึ้น

เพราะละอายใจที่เห็นลูกน้องทำงานหนักกว่าตนเอง แต่ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็พยายามทำต่อไปครับ คงจะมีสักวันที่เขาต้องรู้สึกตัว

5. ปรึกษาปัญหาเรื่องงานกับหัวหน้างานบ่อย ๆ

วิธีนี้เป็นวิธีที่ดี และควรทำอย่างยิ่งครับ ไม่ว่าหัวหน้างานคุณนั้นจะดีหรือไม่ดีก็ตาม เพราะการปรึกษาปัญหาเรื่องงาน

จะทำให้เราทำงานออกมาได้ดี และได้ตรงกับสิ่งที่ตัวงานอยากจะให้เป็นจริง ๆ ความผิดพลาดก็จะลดน้อยลงด้วย

ส่วนการใช้วิธีนี้ จะมีผลทำให้หัวหน้างานที่ไม่ดีเปลี่ยนเป็นดีได้หรือไม่นั้น ส่วนหนึ่งก็ต้องมาจาก

ตัวของหัวหน้าคนนั้น ๆ เองด้วยครับ เพียงแต่เราต้องลองพยายามทำให้เต็มที่ก่อน ก็พอแล้วครับ

6. รายงานให้ผู้ที่มีอำนาจสูงกว่าทราบ

อย่ามองว่าเป็นคนขี้ฟ้องเลยนะครับ เรื่องแบบนี้ ถ้าเราพยายามทำทุกวิถีทางแล้ว หัวหน้างานของเราก็ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น

วิธีการนี้ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณจะทำได้ครับ รายงานเป็นเมล์จะดีที่สุด เพราะจะดูเป็นทางการมากกว่าการที่เราพูดเล่าให้ฟังเฉย ๆ

ส่วนหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ก็แล้วแต่ผู้มีอำนาจจะตัดสินลงไปแหละครับ

แต่ก็ดีกว่าเราไม่พยายามทำอะไรให้ดีขึ้นเลย ถ้าหมดหนทางแล้ว ลองพิจารณาวิธีสุดท้ายดูนะครับ

..ลาออก..

วิธีนี้ไม่ได้ใช้จัดการหัวหน้า แต่จัดการตัวเองครับ จะแค่พูดขู่เล่น หรือจะทำจริง ๆ สุดแต่ใจของคุณเลยครับ เพราะถ้าไม่มีอะไรจะเสีย

ให้กับหัวหน้างานแบบนี้แล้ว ทำหมดทุกทาง ทั้งแสดง ทั้งเขียน ทั้งรายงาน ก็ยังไม่มีอะไร หรือใครทำให้เรื่องนี้ดีขึ้นได้

จงตัดสินใจเลือกทางเดินให้กับตัวเองใหม่ เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วครับ “คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก” ถ้าทำงานแล้วไม่มีความสุขเลย

ชีวิตเราจะมีความสุขได้อย่างไรครับ เลือกในสิ่งที่ดีที่สุด ให้ตัวเองดีกว่าครับ

อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ ขอให้เป็นวิธีสุดท้ายจริง ๆ นะครับ เหตุผลก็เพราะว่า หากเราลาออก เพราะเข้ากับหัวหน้าไม่ได้

รู้ได้อย่างไรว่า ไปในที่ทำงานใหม่ จะไม่มีหัวหน้าลักษณะแบบนี้อีก แบบนี้คงไม่พ้น ต้องลาออกไปเรื่อย ๆ ไม่จบสิ้น

เราเคยมองหรือเปล่าว่าเรามีปัญหาคนเดียว คนอื่นเขาก็ยังโอเคหรือเปล่า หากเราว่าหัวหน้าไม่ดี แต่คนอื่นว่าดี

อาจจะต้องมาพิจารณามุมมองของเราใหม่อีกครั้ง ดังนั้น ขอให้เลือกที่จะสื่อสารอย่างเปิดเผย ถึงความรู้สึกของเรา

และขอให้เราทำตัวเองให้ดีที่สุด อย่าได้เป็นแบบหัวหน้าคุณก็เพียงพอแล้ว

ที่มา learninghub thailand