Skip to content
น่าอ่าน
Menu
Menu

เศรษฐีกับเงินหนึ่งร้อย อ่านแล้วเข้าใจชีวิตมากขึ้น

Posted on 17 มกราคม 202217 มกราคม 2022 by น่าอ่าน

เมื่อไม่นานมานี้ มีชายคนนึง เขาเจอมรสุมชีวิตอย่างหนักครับ

เขาตกงาน โดนภรรยาหนีหน้า เขามีลูกชายอายุ 5 ขวบที่ต้องเลี้ยงดู

ชีวิตเขาในตอนนั้น คุณอาจจะให้คำนิยามว่า ชีวิตของเขาอยู่ในช่วงบัดซบที่สุดก็ว่าได้

แต่ชีวิตบัดซบของเขากลับเปลี่ยนไป เมื่อได้เจอเศรษฐีคนหนึ่ง

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า..

ชายตกงานตื่นแต่เช้า พาลูกชายนั่งรถทัวร์ไปเรื่อย มองที่เก่า ๆ ที่เขากับภรรยาเคยไปด้วยกัน

บ่ายวันนั้นเป็นวันที่อากาศร้อนจัด ชายตกงานกำลังจะพาลูกของเขา เดินเข้าร้านอาหารตามสั่ง

แต่เมื่อเปิดกระเป๋าตังค์ กลับพบว่า ตอนนี้เขามีเงินเหลือติดตัวเพียง 1 บาทเท่านั้น

ไม่พอที่จะซื้อข้าวให้ลูก ชายตกงานบ่นกับตัวเองว่า “ชีวิตอะไรมันจะรันทดขนาดนี้เนี่ย”

ในตอนนั้น เขาก็หันไปพบกับเศรษฐีอ้วนในชุดสูท ท่าท่างใจดี ชายตกงานนึกได้ก็รีบเดินเข้าไปหาทันที

“พี่ชาย ผมขอเงินสักนิด พอให้ผมได้พาลูกเข้าไปกินข้าวได้มั้ย ผมไม่มีตังค์เลย” ชายตกงานกล่าว

เศรษฐีอ้วนยิ้มให้ แล้วถามชายตกงานว่า “ก่อนพี่ให้ตังค์น้อง พี่ถามอะไรหน่อยได้มั้ย”

ชายตกงานดีใจ รีบรับคำทันที “ถามได้เยอะ ๆ เลยครับพี่”

“ทำไมน้องไม่ลองหางานใหม่ ๆ ทำพอได้เงินมาเติมในบัญชีบ้างล่ะ” เศรษฐีถาม

ชายตกงานยิ่งทำหน้าเศร้าไปใหญ่ น้ำตาเหมือนจะไหลเมื่อได้ยินคำถามนี้

มือเขากำมือลูกชายแน่น แล้วพูดออกไปว่า “ผมเจอมรสุมครับพี่”

“ผมตกงานจากบริษัทที่ผมทุ่มเทให้มาหลายปี”

“ภรรยาผมหลบหน้าไปอยู่ที่บ้านพ่อ เพราะผมไม่มีเวลาให้ เงินในบัญชีผมก็หมดไปกับหลายอย่าง”

“ผมรู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตผมมันไม่มีแรง ไม่มีค่าพอจะเริ่มงานอะไรหรอกครับ” แล้วน้ำตาชายตกงานก็คลอเบ้า

เศรษฐีเห็นแบบนั้น ก็ควักเงิน 100 บาทออกมาจากกระเป๋า และถืออยู่ในมือ ก่อนจะพูดปลอบว่า

“ใจเย็นนะไอ้หนุ่ม พี่พอเข้าใจ แต่พี่ขอคุยกับเจ้าหนูนี่ได้มั้ย”

“ได้ครับ” ชายตกงานรับคำ ก่อนจะหันไปบอกกับลูกชายวัย 5 ขวบในชุดเอี๊ยมว่า

“ลูก หนูคุยกับคุณลุงอย่างสุภาพนะครับ”

“ครับพ่อ” เด็กชายตัวเล็กดวงตาใสซื่อ เงยหน้ามองเศรษฐีอ้วนคนนั้น

เศรษฐีอ้วนยิ้มให้ แล้วเริ่มบทสนทนาและถามว่า “พีชใช่มั้ยครับ ชื่อหนูน่ะ ลุงชื่อแดนนะ”

“ครับคุณลุงแดน” เด็กชายตอบ

“หนูช่วยทำอะไรง่าย ๆ ให้ลุงสักหน่อยได้มั้ยครับ แค่ตอบคำถามอะไรสักอย่าง”

“ได้ครับลุงแดน” เด็กชายยิ้มรับ

“พีชรู้มั้ยครับว่านี่เรียกว่าอะไร” เศรษฐีนั่งย่อตัวเท่ากับเด็ก ก่อนจะชูแบงค์สีแดงในมือขึ้นมา

“แบงค์สีแดง เงิน 100 บาทครับ”

“หนูอยากได้มันมั้ยครับ” เศรษฐีถาม

เด็กชายเงยหน้ามองพ่อที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ แล้วหันกลับมาตอบเศรษฐีว่า

“อยากได้ครับ พีชจะเอาไปซื้อข้าวผัดให้พ่อ”

ชายตกงานได้ยินแบบนั้น ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าอีกครั้งนึง

เศรษฐีแหงนหน้ามามองชายตกงาน แล้วพูดกับเขาว่า

“เฮ้ น้องชาย นายตั้งใจดูอะไรต่อไปนี้ดี ๆ นะ” แล้วก็หันกลับมาสบตากับน้องพีชอีกครั้ง

“น้องพีชครับ ลุงมีเกมให้เล่นเกมหนึ่ง มันเรียกว่า เกมถามปุ๊บตอบปั๊บ”

“กติกาง่าย ๆ หนูแค่ตอบว่าอยากได้รึไม่อยากได้ แค่นั้นนะครับ”

พีชพยักหน้า และทำท่าทางจริงจังในแบบของเด็ก เศรษฐีเริ่มยืนขึ้นตัวตรง

ชูแบงค์ร้อยขึ้น แล้วถามคำถามที่หนึ่ง “พีช หนูอยากได้แบงค์หนึ่งร้อยนี้มั้ยครับ”

เด็กชายพยักหน้าและตอบว่า “อยากได้ครับ”

เศรษฐีหันมายิ้มให้ชายตกงาน แล้วกระซิบกับเขาว่า “ถ้าเกิดอะไรขึ้น อย่าพึ่งวู่วามนะน้องชาย”

ชายตกงานที่เฝ้าดูเหตุการณ์พยักหน้ารับแบบงง ๆ ทันใดนั้น สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

เศรษฐีอ้วนขยำเงินแบงค์ร้อยเป็นก้อนกลม ๆ และโยนลงพื้นทันที และพูดกับเด็กว่า

“พีชยังอยากได้เงินนี่อยู่มั้ยครับ”

“อยากได้ครับ” น้องพีชตอบแบบไร้เดียงสา แต่สิ่งไม่คาดฝันสิ่งที่สองก็เกิดขึ้น

เศรษฐีอ้วนหยิบแบงค์ร้อยยับ ๆ นั่นขึ้นมาขยำหนักกว่าเดิม

เขาโยนมันลงพื้นอย่างแรง และถามเด็กแบบลากเสียง อีกว่า “หนูยังอยากได้มันอยู่มั้ย”

น้องพีชหันไปมองหน้าพ่อที่กำลังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนหันกลับมาตอบว่า “อยากได้ครับลุงแดน”

แต่สิ่งไม่คาดฝันครั้งที่สามก็เกิดขึ้น ครั้งนี้มีเสียงดัง ทำเอาพ่อเด็กหน้าถอดสี

และคนในร้านอาหาร หันมามองพร้อมกันทั้งหมดเพียงเสี้ยววิ

เพราะเศรษฐีอ้วนก้มมองไปที่เงินยับ ๆ ใบเดิมที่อยู่กับพื้น ก่อนเอาเท้ากระหน่ำกระทืบมัน

สักพักเขาก็หันมาถามเด็กอีกว่า “พีชยังอยากได้มันอยู่มั้ยลูก”

เด็กชายมองด้วยแววตาใสซื่อ ก่อนยิ้ม และตอบกลับว่า “อยากได้ครับลุงแดน”

เศรษฐียิ้ม ก่อนย่อตัวลงมาเท่าเด็กและพูดว่า

“หนูชนะเกมนี้แล้วครับ ลุงถามหน่อยสิ ทำไมหนูถึงยังอยากได้เงินแบงค์นี้ มันยับ มันสกปรกแล้วนะ”

“เพราะมันยังเป็นเงินครับลุงแดน” เด็กชายตอบ

เศรษฐีลูบหัวน้องพีช ก่อนลุกขึ้นมาถามชายตกงานว่า “นายได้อะไรจากเรื่องนี้บ้างน้องชาย”

“เอ่อ.. คือผม” ชายคนนั้นยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่หาย ได้แต่คว้ามือลูกมากำไว้แน่น

เศรษเอามือแตะบ่าชายตกงานเบา ๆ ก่อนพูดว่า “ใจเย็น เป็นพี่ก็ตกใจ เดี๋ยวพี่เล่าเองนะ”

“ข้อคิดง่าย ๆ จากเรื่องนี้คือ ไม่ว่าเงินนี้จะถูกกระทำยังไง น้องพีชก็ยังอยากได้มัน”

“เพราะว่า คุณค่าของมันไม่ได้หายไปไหน” ชายตกงานเริ่มเข้าใจและสีหน้าดีขึ้น

“หมายความว่าที่พี่ชายทำเมื่อกี้คือ”

“ใช่แล้ว พี่กำลังให้น้องพีชช่วยเตือนสตินายอยู่” เศรษฐีกอดคอชายตกงาน

ชูเงินแบงค์ร้อยยับ ๆ ขึ้นมา และพูดต่อว่า

“บางครั้งเราก็ถูกทอดทิ้ง บางครั้งเราก็ถูกกระทำ ถูกขยำแล้วขยำอีก”

“ถูกมรสุมชีวิตกระทืบ เรามีโอกาสที่จะบอบช้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ใช่มั้ยไอ้น้อง”

เขามองหน้าชายตกงานและพูดต่อว่า “จำไว้นะ คนเราอาจโดนบทเรียนชีวิตช่วงนึง เข้ามากระทำได้”

“แต่เราต้องไม่ทำให้คุณค่าตัวเองลดลงไปนะ มันก็เหมือนกับแบงค์ร้อยยับ ๆ แบงค์นี้แหละ”

“พี่เชื่อว่าคนทุกคนมีของ อย่างน้องก็แค่คนสิ้นหวัง เลยไม่อยากทำงานใหม่ ๆ”

“แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ที่น้องดูถูกคุณค่าของตัวเอง”

“อย่าดูถูกตัวเองอีกนะเว้ย ไม่งั้นชีวิตเอ็งก็ไม่มีค่า เท่ากับไอ้เงินแบงค์ร้อยยับ ๆ นี่”

ชายตกงานรู้สึกมีกำลังใจ เขาเอาแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตา

ทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเอง ได้โปรดอย่าให้ใครหน้าไหน มาลดคุณค่าคุณลงไปเด็ดขาด

ต่อให้ใครหน้าไหนเข้ามากระทำคุณ แบบแบงค์ร้อยในเรื่องก็ตาม

แต่เงิน.. ต่อให้ผ่านมือใครมา มันก็ยังรักษาคุณค่าของมันได้เสมอ

ที่มา e-yhangwa